ทั้งนี้ในส่วนของไทยจะมีการศึกษาและเตรียมพร้อมในเรื่องที่จีนจะมาลงทุนเพิ่มในประเทศไทย ทั้งเรื่องการเกษตรและอื่นๆ ส่วนยอดการค้าขายระหว่างไทยและจีนนั้นเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยยอดการส่งออกเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 12% จากในช่วง 15 ปีก่อนที่อยู่ที่เพียง 2% และจีนเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย พร้อมกันนี้เชื่อว่าหากเศรษฐกิจจีนเติบโตได้ดีขึ้น เศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็จะเติบโตตาม และจีนยังให้ความสำคัญกับประเทศไทยตั้งแต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)เข้ามาควบคุมอำนาจการปกครอง
รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ ยังระบุว่า จีนให้ความสนใจจะนำเข้าข้าว, ยางพารา และกล้วยไม้ไทย ส่วนความร่วมมือด้านรถไฟความเร็วสูงนั้นในวันนี้ยังไม่ได้มีการหารือกัน
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวด้วยว่า เตรียมที่จะเสนอร่าง พ.ร.บ.ภาษีมรดก เข้าสู่ที่ประชุมสภานิบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) โดยเร็วที่สุดก่อนที่จะเสนอร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดิน ซึ่งต้องศึกษาในรายละเอียดอีกมาก ขณะเดียวกันเตรียมศึกษาการจัดเก็บภาษีในด้านอื่นที่รัฐบาลจะต้องจัดเก็บ เช่น ภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ซึ่งจะคำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด
สำหรับการใช้หนี้เงินกู้ในโครงการรับจำนำข้าวกว่า 7 แสนล้านบาทนั้น รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า กำลังหาแนวทางการใช้หนี้อยู่ โดยไม่กระทบต่องบประมาณปกติ