"โจทย์ชัดเจนอยู่แล้วว่าราคาพลังงานในขณะนี้ไม่เป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และที่ร้ายคือทำให้โครงสร้างพลังงานของเรา ไม่สามารถมีพลังงานใช้อย่างยั่งยืนได้ ทำให้ก๊าซเราหมด ไฟฟ้าแพง มันอยู่ไม่ได้ อนาคตลูกหลานเราต้องมารับในสิ่งที่เกิดขึ้นจากที่เราทำ" นายณรงค์ชัย ให้สัมภาษณทางสถานีโทรทัศน์เช้านี้
ส่วนที่ในเดือนต.ค.นี้ จะมีการปรับขึ้นราคาก๊าซ LPG และ NGV ในภาคขนส่งในรอบเดียวหรือไม่ หรือจะปรับขึ้นเท่าใดนั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ แต่ความชัดเจนคือต้องปรับขึ้นราคาแน่นอน
"จะปรับเท่าไรก็ค่อยว่ากัน หลักการต้องปรับให้เท่ากับ LPG ภาคครัวเรือนก่อน คงต้องปรับต่อไป เพราะราคาก๊าซธรรมชาติยังไม่ลงตัว คนใช้ต้องได้รับความเป็นธรรมทั่วกัน ทั้งภาคอุตสาหกรรม ภาคครัวเรือน ภาคขนส่ง ที่ทำมาในอดีตเละเทะหมด ต้องจัดให้ยุติธรรมกับทุกคน ของอย่างเดียวกันก็ต้องราคาเดียวกัน ยกเว้นใครที่ไม่สามารถจะจ่ายได้ เราต้องช่วยเขา"รมว.พลังงาน กล่าว
ส่วนมาตรการช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้น้อยหลังจากมีการปรับขึ้นราคา LPG นั้น นายณรงค์ชัย กล่าวว่า ยังคงใช้มาตรการเดิมคือให้ผู้ที่มีรายได้น้อย เช่น ประชาชนทั่วไป, ผู้ขับแท็กซี่ และร้านค้าย่อย มาลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิในการใช้ก๊าซ LPG ในราคาถูก แต่ที่ผ่านมาแม้จะมีจำนวนผู้มีสิทธิมาก แต่กลับพบว่ามีผู้มาลงทะเบียนใช้สิทธิน้อย ซึ่งในประเด็นนี้จะต้องพิจารณาต่อไปว่ามาจากปัญหาหรือความยุ่งยากในขั้นตอนใด หรือราคาที่ให้ไม่จูงใจเพียงพอ
นายณรงค์ชัย ย้ำว่า สินค้าพลังงานชนิดเดียวกันก็ควรต้องเป็นราคาเดียวกัน ไม่ว่าจะจำหน่ายในภาคครัวเรือน, ภาคขนส่ง หรือภาคอุตสาหกรรม ยกเว้นว่ารัฐบาลจะมีนโยบายในการสนับสนุนการใช้พลังงานบางประเภท ซึ่งก็อาจจะทำให้ราคาพลังงานตัวนั้นมีความแตกต่างกันได้ เช่น การใช้เอทานอลเป็นพลังงานทดแทน รัฐบาลก็จะปรับราคาลงให้เพื่อเป็นการสนับสนุนการใช้ให้มากขึ้น
"หลักการคือ ของอย่างเดียวกันก็ต้องซื้อในราคาเท่ากัน และของอย่างเดียวกันก็ต้องเสียภาษีในราคาเท่ากัน ใช้หลักนี้ นี่คือพิมพ์เขียว(การปรับโครงสร้างราคาพลังงานทั้งระบบ)"รมว.พลังงาน กล่าว
ส่วนปัญหาที่ขณะนี้ประเทศไทยมีความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติมากจนทำให้ต้องมีการนำเข้าจากต่างประเทศนั้น นายณรงค์ชัย กล่าวว่า เป็นเพราะที่ผ่านมาภาครัฐมีนโยบายช่วยเหลือในด้านราคาก๊าซธรรมชาติ จึงทำให้เกิดการใช้กันมากไม่ว่าจะเป็นภาคขนส่ง หรือแม้แต่การพึ่งพาก๊าซธรรมชาติในโครงสร้างการผลิตไฟฟ้าในสัดส่วนที่สูง
"ขณะนี้มีการใช้เร็ว แต่กระบวนการผลิตใหม่ยังช้า ดังนั้นเราจึงต้องนำเข้า ทำให้มีราคาแพงกระทบไปทั่ว ดังนั้นการใช้ก๊าซธรรมชาติต้องไม่ควรให้มากอย่างเช่นที่ผ่านมา ต้องไปใช้อย่างอื่นมากขึ้น เช่น ถ่านหิน ทำให้มันสมดุลย์กัน"นายณรงค์ชัย กล่าว
พร้อมระบุว่า การทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายเป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งในขณะนี้ระดับปฏิบัติกำลังดำเนินการอยู่ เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน โดยประเด็นสำคัญคือต้องสร้างศรัทธาให้ทุกฝ่ายเกิดความเชื่อว่าภาครัฐจะสามารถบริหารความเดือดร้อนได้