รมวเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ภาคเกษตรมีปัญหาในตัวของมันเอง ดังนั้นต้องปรับกลไกอยู่เรื่อยๆ และทำให้เกิดความคล่องตัวในกลไกที่มีอยู่เหล่านั้น
"กำลังพิจารณาว่าจะทำเป็นกฎหมายดีหรือไม่ หรือจะเป็นนโยบายรัฐบาล แต่พอรัฐบาลเปลี่ยนทีก็จะยกเลิกไหม กำลังนึกอยู่ว่าจะทำอย่างไร" นายปีติพงศ์ กล่าว
รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ตนเองได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปศึกษา ซึ่งคงจะเรียกเข้ามาคุยและดำเนินการเป็นเรื่องเป็นราวต่อไป คาดว่าจะใช้เวลา 2-3 สัปดาห์หรืออาจจะมากกว่านั้นเล็กน้อยในการนำเสนอต่อที่ประชุม ครม.เพราะต้องขึ้นกับข้อมูลทางการเกษตรด้วย ตอนนี้ยังไม่ได้คิดเรื่องงบประมาณว่าจะต้องใช้เท่าใด เพียงแต่เห็นจากกรอบของกระทรวงการคลังว่าจะใช้แสนล้านบาท
สำหรับแนวทางการแก้ปัญหาภาคเกษตรของทางยุโรปนั้นจะใช้ทั้งเลิกทั้งลด แต่ใช้เงินงบประมาณจำนวนมากพอควร แต่หากจะแก้ไขจริงๆ คงหลีกวิธีนี้ไม่ได้
"ยุโรปทำได้ง่ายกว่าเราเพราะเป็นเกษตรกรรายใหญ่ ต้องดูว่าผลสำเร็จในช่วง 2-3 ปีแรกเป็นอย่างไร ยุโรปทำแนวคิดนี้มา 20-30 ปีแล้ว และยังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านของภาคเกษตร" นายปีติพงศ์ กล่าวทางสถานีโทรทัศน์เช้านี้