พร้อมกันนี้ นพ.สมศักดิ์ ระบุว่า หลังจากที่มีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศอย่างชัดเจนแล้ว ทางสมาคมฯ มีนโยบายที่จะผลักดันเรื่องพ.ร.บ.นายหน้าอสังหาริมทรัพย์กับรัฐบาลชุดนี้อีกครั้ง และจะดำเนินการจนกว่าเรื่องนี้จนกว่าจะสำเร็จ เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ และเชื่อว่ารัฐบาลชุดใหม่ได้เห็นความสำคัญกับการจำกัดธุรกิจที่เป็นสีเทาออกจากสังคม จะให้ความสนใจสาระสำคัญของพ.ร.บ.นายหน้าฯ เพราะมีนโยบายที่ชัดเจนในการทำให้ทุกอย่างในสังคมและประเทศชาติมีความโปร่งใส ดังนั้น ความเป็นไปได้น่าจะมีมากกว่ารัฐบาลชุดก่อนหน้านี้มา
“ที่ผ่านมาทางสมาคมฯ ได้มีการผลักดันเรื่องการทำงานภายในจรรยาบรรณ รวมทั้งการอบรมสัมมนาเพื่อให้ความรู้กับนายหน้าที่เป็นสมาชิก มีส่วนช่วยลดปัญหาได้บ้าง รวมทั้งได้พยายามประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนและผู้บริโภคใช้บริการซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์กับนายหน้าอสังหาฯ ที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ เนื่องจากได้ผ่านการฝึกอบรมให้มีความเชี่ยวชาญในการทำงาน รวมทั้งทำงานภายใต้กฎกติกาและข้อบังคับ เพราะมีคณะกรรมการจรรยาบรรณทำหน้าที่ควบคุม จึงสามารถช่วยลดปัญหาความขัดแย้งระหว่างนายหน้าฯ กับผู้บริโภคได้ในระดับหนึ่งส่งผลให้ที่ผ่านมาประชาชนให้ความสนใจซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์มือสองเพิ่มขึ้นประมาณ 15-20% แต่ก็ถือว่ายังน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับต่างประเทศ" นพ.สมศักดิ์ กล่าว