"GDP ในภาพรวมของเอเชียโตมากกว่า 10% ขณะที่สหรัฐ สหภาพยุโรป และญี่ปุ่นโตไม่เกินปีละ 2%...การเปิด AEC ในปีหน้าจะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างรวดเร็ว ปริมาณการค้าในตลาดเอเซียจะมาทดแทนตลาดสหรัฐและอียู" ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าว
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจของเอเชียได้รับแรงหนุนจากเศรษฐกิจของจีนที่มีการขยายตัวอย่างมาก ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐและกลุ่มสหภาพยุโรปถูกบั่นทอนด้วยปัญหาเศรษฐกิจฟองสบู่จนส่งผลให้เกิดปัญหาการว่างงาน โดยสหรัฐมีอัตราการว่างงาน 6% และบางประเทศในกลุ่มอียู เช่น กรีซ และสเปน ก็มีอัตราการว่างงานสูงเหมือนกัน ซึ่งคงต้องใช้เวลาแก้ปัญหานี้อีก 2-3 ปี
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจของไทยหลังเกิดวิกฤตปี 40 กลับมาเติบโตได้ดี แม้จะเกิดสถานการณ์ความรุนแรงทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา โดยภาวะเศรษฐกิจของไทยยังมีความเข้มแข็งดีอยู่ อัตราการว่างงานมีไม่ถึง 1% ตอนนี้ยังไม่มีสัญญาณที่ชัดเจนว่าจะเกิดปัญหาฟองสบู่
"ภาวะเศรษฐกิจของเรายังมีความเข้มแข็งดีอยู่ เรามีบทเรียนจากวิกฤตปี 40 ที่รู้ว่าจะป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างไร ยังไม่มีปัญหาอะไรที่ชัดเจน" ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าวต่อที่ประชุมผู้นำด้านสถาบันการเงินและการบริหารจัดการสินทรัพย์ของภาครัฐ