"ไม่อยากให้ชาวนานำราคาว่าจะต้องขายได้ตันละ 10,000 บาทมาเป็นตัวตั้ง แต่หากรัฐผลักดันให้ชาวนาลดต้นทุนปลูกข้าวได้ ถึงขายได้ 8,500 บาท ก็ยังมีกำไรเหลืออยู่ที่ประมาณ 4,000 บาท ชาวนาก็น่าจะอยู่ได้ โดยการประชุมรอบหน้าจะให้ชาวนานำมาเสนอถึงวิธีการในการลดต้นทุนอีกครั้ง" นางจินตนา กล่าว
สำหรับมาตรการที่กรมฯได้เตรียมพร้อมในการดูแลราคาข้าวเปลือกฤดูกาลใหม่ หรือนาปีปี 57/58 นั้น ขณะนี้มีโรงสีมาเข้าสมัครเข้าร่วมโครงการเก็บสต๊อกข้าวล่วงหน้า โดยภาครัฐจะช่วยชดเชยอัตราดอกเบี้ยให้ 3% ของมูลค่าที่โรงสีซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาในราคานำตลาดตันละ 100-200 บาท ซึ่งขณะนี้มีโรงสีเข้าร่วมโครงการแล้ว 133 ราย โดยคาดว่าจะสามารถรองรับการเก็บสต๊อกข้าว หรือดึงข้าวออกจากระบบได้ 3.7 ล้านตัน นอกจากนี้ยังเตรียมแผนจัดตลาดนัดข้าวเปลือก เพื่อดึงให้ผู้ซื้อและผู้ขายมาเจอกัน
พร้อมกันนี้ ในส่วนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ได้เตรียมวงเงินสินเชื่อถึง 20,000 ล้านบาท ที่จะเข้าไปสนับสนุนช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายการเก็บข้าวในยุ้งฉางของกลุ่มสหกรณ์ต่าง ซึ่งมีดอกเบี้ยต่ำเพียง 1% เท่านั้น มาตรการเหล่านี้ก็จะดูแลระดับราคาข้าวเปลือกฤดูกาลใหม่ได้ โดยราคาเปลือกเจ้าปัจจุบันอยู่ที่ตันละ 8,500 บาท