นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัด
กระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กรณีองค์กรเอกชนและประชาชนบางส่วนในพื้นที่จังหวัดกระบี่ยื่นฟ้อง
ศาลปกครอง เพื่อขอให้มีคำสั่งเพิกถอนโครงการท่าเทียบเรือบ้านคลองรั้ว ซึ่งจะเป็นพื้นที่นำเข้าถ่านหินสำหรับโรงไฟฟ้ากระบี่ ขณะที่
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(
กฟผ.) จะจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโครงการท่าเทียบเรือบ้านคลองรั้ว ครั้งที่ 3 ในวันที่ 28 ก.ย.นี้ เพื่อนำเสนอผลการวิเคราะห์ผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชี้แจงมาตรการป้องกันแก้ไขและติดตามตรวจสอบผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพเพื่อนำมาประกอบการพิจารณากำหนดมาตรการป้องกัน การแก้ไขผลกระทบ และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม และสุขภาพ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาโครงการให้เหมาะสมสอดคล้องกับความต้องการของท้องถิ่นและการยอมรับจากชุมชนที่ยั่งยืนต่อไปว่า ปัจจุบันกำลังการผลิตไฟฟ้าในพื้นที่
ภาคใต้ไม่เพียงพอกับความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะภาคท่องเที่ยว เช่น โรงแรมมีความต้องการใช้ขยายตัว 10% ต่อปี ขณะที่กำลังผลิตไฟฟ้าโดยรวมใน
ภาคใต้มีประมาณ 2,400 เมกะวัตต์ แต่ความต้องการอยู่ที่ 2,600 เมกะวัตต์ จึงต้องพึ่งพากระแสไฟฟ้าจากภาคกลางถึง 16% ดังนั้นจึงจำเป็นต้องสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ พร้อมกับการเดินหน้าโครงการส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพควบคู่พลังงานทดแทน
ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ในวันที่ 29 ก.ย.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการพลังงานทดแทน เพื่ออนุมัติโครงการลงทุนโรงไฟฟ้าขยะ กำลังการผลิตรวมประมาณ 100 เมกะวัตต์ ได้รับการอุดหนุนเป็นแอดเดอร์ 3.50 บาทต่อหน่วย และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ตกค้างประมาณ 700-800 เมกะวัตต์ โดยในส่วนนี้จะได้รับการอุดหนุนเป็นฟีดอินทรารีฟ 6.50 บาทต่อหน่วย ซึ่งหากได้รับการอนุมัติคาดว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนหลายหมื่นล้านบาท โดยจะเป็นการดำเนินการตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี และหากเร่งก่อสร้างก็จะช่วยแก้ปัญหามลพิษได้ด้วย
อินโฟเควสท์ โดย อตฦ/ธนวัฏ/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--