โดยเฉพาะเรื่องขนาด บทบาท อำนาจรัฐ สิบปีที่ผ่านมานานาประเทศพยายามลดขนาดและบทบาทของอำนาจรัฐ แต่ประเทศไทยตรงกันข้ามมีการขยายขอบเขตอำนาจรัฐ ซึ่งในความเป็นจริงรัฐควรมีบทบาทเท่าที่จำเป็น หากเข้าไปแทรกแซงหรือใช้อำนาจรัฐมากเกินไปอาจจะส่งผลเสียหายร้ายแรง ยกตัวอย่างกรณีโครงการรับจำนำข้าว ถ้าปล่อยให้ตลาดเดินไปตามกลไก ใช้เงิน Subsidise บ้างเท่าที่จำเป็นก็ไม่เป็นไร แต่โครงการรับจำนำข้าวรัฐเข้าไปยุ่งวุ่นวายในทุกขั้นตอนความเสียหายจะตามมาทันที
ส่วนเรื่องการคอร์รัปชั่น สมัยนี้มีพัฒนาการไปมาก ล้ำลึกมากขึ้น โดยการจัดอันดับการคอร์รัปชั่น"องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ"จำนวน 177 ประเทศไทยอยู่ที่อันดับ 102 จาก 5 ปีก่อนที่ ไทยอยู่ที่อันดับ 62 แสดงให้เห็นถึงปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันของไทยทวีความรุนแรงมากขึ้น ขณะที่จีน อินเดีย ฟิลิปปินส์ ที่เคยมีปัญหาเรื่องคอร์รัปชั่นค่อนข้างรุนแรงกลับมีอันดับดีขึ้นเรื่อยๆ
"อยากเห็นมาตรการแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นที่เป็นรูปธรรมจากท่านนายกฯ แค่การพูดว่าจะไม่ยอมให้มีการทุจริตคอร์รัปชั่นไม่ใช่มาตรการที่จะแก้ไขปัญหา" นายบรรยง กล่าว
นายบรรยง กล่าวว่า หากคาดหวังว่าการมีรัฐบาลนี้จะทำให้เศรษฐกิจไทยโตดี แล้วไปกดดันเอากับนายกฯ หรือทีมเศรษฐกิจอาจต้องผิดหวัง เพราะถึงจะเก่งแค่ไหนทำได้อย่างมากก็กลับมาโตได้แค่ไม่เกิน 5% ในปีหน้า