ส่วนราคาขายปลีกก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลจะปรับขึ้น 1 บาทต่อกิโลกรัม จากเดิม 10.50 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 11.50 บาทต่อกิโลกรัม และให้คงราคาขายปลีก NGV สำหรับรถโดยสารสาธารณะไว้ที่ 8.50 บาทต่อกิโลกรัมเช่นเดิม เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนส่วนใหญ่
การปรับราคา NGV ครั้งนี้จะช่วยให้ราคา NGV สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงมากขึ้น และลดการอุดหนุนราคา NGV จาก บมจ.ปตท.(PTT) เพื่อนำรายได้ไปขยายสถานีบริการ NGV รวมถึงขยายท่อส่งก๊าซเพื่อให้บริการทั่วถึงทุกภูมิภาคมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีสถานีบริการ NGV จำนวน 497 สถานีทั่วประเทศ โดยในเบื้องต้นจะเร่งดำเนินร่วมกับทางสมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยขยายสถานีบริการในพื้นที่ภาคกลางและภาคอีสานและจะขยายเพิ่มเติมในภาคอื่นๆ ต่อไป เพื่อที่จะรองรับกับจำนวนรถที่ใช้ NGV ซึ่งในปัจจุบันมีอยู่มากกว่า 450,000 คัน
นอกจากนี้ ที่ประชุม กบง.เห็นชอบปรับเพิ่มอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันดีเซลขึ้น 0.40 บาทต่อลิตร จากเดิมจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ สำหรับดีเซล 1.70 บาทต่อลิตร ปรับเป็นจัดเก็บ 2.10 บาทต่อลิตร โดยไม่มีผลต่อราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลแต่อย่างใด แต่จะทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายรับเพิ่มขึ้นจากเดิมมีรายรับ 2,841 ล้านบาทต่อเดือน เป็น 3,484 ล้านบาทต่อเดือน
ทั้งนี้ กองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 28 ก.ย.57 มีฐานะสุทธิติดลบประมาณ 4,196 ล้านบาท และผลจากการปรับราคาดังกล่าว จะทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีฐานะสุทธิเป็นศูนย์ ภายในระยะเวลาไม่เกิน 2 เดือน