ด้านนายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ขณะนี้กรมส่งเสริมการเกษตรจะดำเนินการเรื่องการขึ้นทะเบียนเกษตรกร ซึ่งจะใช้ฐานข้อมูลเดิมที่เกษตรกรมาขึ้นทะเบียนขอรับสิทธิ์ลดดอกเบี้ย 3% ซึ่งขณะนี้มีเกษตรกรมาขึ้นทะเบียนแล้ว 2.8 ล้านราย คิดเป็น 88% จากชาวนาทั้งหมด 3.4 ล้านราย เมื่อเกษตรกรได้รับรองแล้วก็ให้มาแสดงตนที่สาขาของธ.ก.ส.พร้อมกับนำสมุดบัญชีเงินฝากมาแสดง หลังจากนั้น ธ.ก.ส.จะตรวจสอบข้อมูลว่าตรงกับฐานข้อมูลที่มีอยู่หรือไม่ หากข้อมูลตรงกันก็จะคำนวณเงินช่วยเหลือสำหรับเกษตรกรปลูกข้าวที่มีที่ดินเกิน 15 ไร่ และไม่เกิน 15 ไร่ แล้วจะโอนเงินเข้าบัญชีภายใน 3 วัน
ส่วนกรณีที่ชาวนาจาก จ.พิจิตร ออกมาเดินขบวนเรียกร้องว่ายังไม่ได้รับเงินจากโครงการรับจำนำข้าวนั้น นายลักษณ์ คาดว่าน่าจะมาจากปัญหาการจำนำข้ามเขต คือ อยู่พิจิตรแต่เอาข้าวไปจำนำที่นครสวรรค์ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กำลังให้ทางจังหวัดตรวจสอบว่าชาวนากลุ่มนี้มีการปลูกข้าวในช่วงระยะเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่มีโครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ดหรือไม่ หากพิสูจน์ได้ว่ามีการปลูกข้าวจริงก็จะเสนอให้กับคณะกรรมการนโยบายบริหารและจัดการข้าว(นบข.) รับทราบ เพื่อขออนุมัติงบประมาณมาจ่ายให้กับชาวนากลุ่มนี้ ซึ่งใช้งบประมาณไม่เกิน 100 ล้านบาท