พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวภายหลังการหารือกับนักธุรกิจรายใหญ่ว่า ได้เล่าให้นักธุรกิจฟังถึงนโยบายของรัฐบาลทั้งระยะสั้น 3 เดือนที่เน้นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และระยะยาวใน 1 ปี ที่เป็นการวางรากฐานทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งได้ขอความร่วมมือว่าปฏิรูปประเทศ และอย่าทำอะไรที่เป็นการขัดขวางการปฏิรูป ส่วนในเรื่องสินค้าเกษตรนั้นได้ขอให้ภาคเอกชนผลิตสินค้าที่มีคุณภาพมากกว่าปริมาณ และสร้างมูลค่าเพิ่ม เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในอนาคต
"ภาคเอกชนสนับสนุนให้รัฐบาลใช้กลไกตลาดเป็นตัวขับเคลื่อนราคา ไม่อยากให้รัฐบาลมีนโยบายแทรกแซงราคาที่ทำให้กลไกตลาดบิดเบือน ส่วนราคาข้าวที่มีข่าวว่าตกต่ำนั้น ขณะนี้กำลังปรับขึ้น แต่การที่รัฐบาลยังต้องใช้เงิน 40,000 ล้านบาทช่วยเหลือชาวนา ถือเป็นการช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้น้อย ซึ่งจะมีผลทำให้ชาวนามีเงินใช้จ่ายและดันให้เศรษฐกิจฐานรากขยายตัวได้" รมว.พาณิชย์ กล่าว
นอกจากนี้ ยังได้หารือถึงสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคได้ชี้แจงกับภาคเอกชนว่า ขณะนี้ประชาชนกำลังเดือดร้อนจากค่าครองชีพสูง แต่ไม่ได้ขอให้ตรึงราคาสินค้าต่อไป เพราะเชื่อว่าภาคเอกชนให้ความร่วมมืออยู่แล้ว ขณะเดียวกันยังได้หารือถึงการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน หากผลักดันให้ขยายตัวมากขึ้นอีกก็จะทำให้การค้าระหว่างประเทศของไทยและเศรษฐกิจไทยขยายตัวได้อีกมาก รวมถึงได้แจ้งถึงการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ที่รัฐบาลต้องดำเนินการเพื่อลดต้นทุนด้านการขนส่งให้กับภาคเอกชน
รมว.พาณิชย์ ยังแจ้งอีกว่า ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างการแก้ไขกฎหมายของทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ 20 ฉบับให้ทันสมัยและทันเหตุการณ์มากขึ้น ซึ่งจะแล้วเสร็จภายใน 1 เดือน และต้องนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายใน 3 เดือน
พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวต่อถึงสถานการณ์การส่งออกของไทย โดยยอมรับว่ามูลค่าการส่งออกของไทยเดือนส.ค.57 ลดลงมากเมื่อเทียบกับเดือนส.ค.56 เพราะสถานการณ์ภายในประเทศของไทย และสถานการณ์เศรษฐกิจโลกต่างกันมาก โดยเมื่อช่วงต้นปี 57 ไทยยังมีปัญหาการเมืองในประเทศ ทำให้ต่างประเทศไม่เชื่อมั่น แต่หลังจากวันที่ 22 พ.ค.57 ความเชื่อมั่นเริ่มกลับมาแล้ว เชื่อว่ามูลค่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมั่นใจอัตราการขยายตัวของการส่งออกในปีนี้จะไม่ติดลบเหมือนที่ภาคเอกชนคาดการณ์อย่างแน่นอน
ด้านนายเจริญ สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ไทยเบฟเวอร์เรจ กล่าวว่า รู้สึกดีมากที่กระทรวงพาณิชย์เชิญภาคเอกชนเข้ามาหารือ เพื่อรับฟังข้อคิดเห็นระหว่างภาครัฐและเอกชนด้วยกัน เบื้องต้นได้มีการหารือเกี่ยวกับการเชื่อมโยงการทำงานร่วมกันเพื่อสร้างรายได้ให้กับรากหญ้า แต่ยังไม่ได้ลงลึกในรายละเอียดมากนัก หลังจากนี้ภาคเอกชนจะเข้าพบรมว.พาณิชย์ เพื่อหารือถึงสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจในต่อไป