2.การแสวงหาไฟฟ้าระยะยาว ต้องกระจายแหล่งเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าและปรับเปลี่ยนจากก๊าซธรรมชาติไปใช้เชื้อเพลิงชนิดอื่นให้มากขึ้น โดยเฉพาะการใช้พลังงานทดแทนที่ต้นทุนถูก เช่น ถ่านหินสะอาด 3.จัดหาแหล่งเชื้อเพลิงพลังงานทั้งในและต่างประเทศเพื่อนบ้านให้มากขึ้น 4.พัฒนางานวิจัยต่อยอดไปสู่เชิงพาณิชย์โดยร่วมกับสภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และหน่วยงานวิจัยทั้งภาครัฐและเอกชนมุ่งเป้าให้เกิดผลในเชิงปฏิบัติอย่างเห็นผลจับต้องได้ พร้อมทั้งส่งเสริมพลังงานทดแทนเริ่มจากที่ต้นทุนต่ำและมีศักยภาพก่อน เช่น พลังงานชีวมวล และพลังงานจากขยะ
5.อุตสาหกรรมพลังงานจะเปิดให้มีการแข่งขันอย่างเสรี เช่น การแยกกิจการท่อก๊าซของ บมจ.ปตท(PTT) การเปิดให้บริการขนส่งทางท่อให้แก่ผู้ประกอบการอื่น การนำโรงกลั่น SPRC เข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 6.การก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจของอาเซียน(AEC) หลังปี 58 จะต้องปรับปรุงเครือข่ายระบบสายสางไฟฟ้า ระบบท่อก๊าซธรรมชาติ ตลอดจนปรับปรุงกฎระเบียบและข้อกฎหมายและข้อกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อระบบการค้าอย่างเสรีเพื่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกันของภูมิภาค และ 7.การเพิ่มระดับธรรมาภิบาลให้เกิดขึ้นในหน่วยงานรัฐด้านพลังงานให้มีการเปิดเผยข้อมูลและข้อเท็จจริงที่โปร่งใสสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมและความรับผิดชอบต่อสาธารณชนเพื่อให้ประชาชนหันกลับมาให้ความเชื่อมั่นต่อหน่วยงานภาครัฐด้านพลังงานมากขึ้น
รมว.พลังงาน กล่าวว่า หลังจากนี้ไปกระทรวงฯ จะมีผลงานออกมาให้ประชาชนได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง งานหลายด้านได้มีการวางแผนและเตรียมการไว้บ้างแล้ว เช่น ปรับโครงสร้างราคาพลังงาน เริ่มจากน้ำมัน LPG และ NGV ซึ่งยังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องเร่งทำ รวมถึงการเบิกจ่ายเงินงบประมาณปี 58 โดยเร็ว เพื่อผลักดันให้เกิดการลงทุนและมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ