นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.40/42 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจากช่วงปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 32.53 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับภูมิภาคหลังดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่า เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ประกาศเมื่อคืนนี้ออกมาไม่ค่อยดี ประกอบกับดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวลดลง ทำให้นักลงทุนมองว่าการที่เฟดจะตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยอาจไม่เป็นไปอย่างที่คาดการณ์ไว้แล้ว
"เงินบาทปรับตัวแข็งค่าลงมา แต่ทรงตัวนิ่ง เมื่อคืนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาค่อนข้างแย่ หุ้นลงเยอะ" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบเงินบาทในวันนี้จะเคลื่อนไหวระหว่าง 32.35-32.50 บาท/ดอลลาร์
"เงินบาทปรับตัวแข็งค่าลงมาหยุดนิ่งอยู่ เหมือนทุกคนรอดูสถานการณ์ว่าจะไปในทิศทางใดเพราะยังไม่มั่นใจ" นักบริหารเงิน กล่าว
ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 32.4483 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M(15 ต.ค.) อยู่ที่ 1.87916% และ THAI BAHT FIX 6M(15 ต.ค) อยู่ที่ 1.88638%
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 106.03 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 107.08 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2833 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.2633 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.5300 บาท/ดอลลาร์
- "ปรีดิยาธร" ดึงผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศ-ไทย เดินหน้า "ดิจิทัล อีโคโนมี" คาดแก้กฎหมาย เสร็จ 13 ฉบับภายในปีนี้ พร้อมปรับโครงสร้างกระทรวงไอซีทีใหม่ ด้าน รมว.ไอซีทีดึง "พันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์" เป็นหัวหน้าทีม เตรียมตั้งสำนักงานใหม่ พร้อมเปลี่ยนชื่อกระทรวง
- การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะเลื่อนจัดงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย หรือ ไทยแลนด์ ทัวริสซึ่ม เฟสติวัล (ทีทีเอฟ) ซึ่งเป็นงานใหญ่ประจำปีของ ททท. ให้เร็วขึ้นจากเดิมเดือน มิ.ย. เป็นเดือน ม.ค. 58 นี้ เพื่อให้สอดคล้องกับการเปิดปีการท่องเที่ยววิถีไทย ที่กำหนดเปิดงานอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 ม.ค. 58 ขณะเดียวกันยังเป็นการสร้างแรงดึงดูดให้นักท่องเที่ยวไทยเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น เพราะเป็นการจัดงานในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว หรือไฮซีซั่น โดยมั่นใจว่าการจัดงานทีทีเอฟให้เร็วขึ้นครั้งนี้จะมีส่วนช่วยให้นักท่องเที่ยวในประเทศเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ 8 แสนคน
- นายเกียรติพงศ์ อริยปรัชญา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลงน้อยที่สุดในภูมิภาค แม้ว่าต้องเผชิญความผันผวนด้านเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงหลังถูกปรับลดการขยายตัวทางเศรษฐกิจโลก และตัวเลขเศรษฐกิจในยุโรปยังอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากมีความชัดเจนด้านการเมืองและมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่สามารถต้านทานความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ โดยดัชนีหุ้นไทยลดลงเพียง 2.58% จากกลางเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่เกาหลี ลดลงถึง 7.7%, ไต้หวัน 6.4%, มาเลเซีย 4% และอินโดนีเซีย 7%
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงเพิ่มขึ้น 162 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 11,510 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ หรือราคาเทียบเท่ากับ 1,245.07 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 17.52 ดอลลาร์สหรัฐ
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก หลังจากสหรัฐและประเทศต่างๆได้เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ นอกจากนี้ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันหลังจากสำนักงานพลังงานสากล(IEA) ได้ปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลก โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ลดลง 6 เซนต์ ปิดที่ 81.78 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือน พ.ย.ร่วงลง 1.26 ดอลลาร์ ปิดที่ 83.78 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค.พุ่งขึ้น 10.5 ดอลลาร์ หรือ 0.85% ปิดที่ 1,244.8 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน ธ.ค.เพิ่มขึ้น 6.1 เซนต์ ปิดที่ 17.464 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือน ม.ค.ร่วงลง 11.4 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,260.9 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน ธ.ค.ร่วงลง 30.85 ดอลลาร์ ปิดที่ 764.25 ดอลลาร์/ออนซ์
- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอแสดงให้เห็นว่าแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะไม่มีความต่อเนื่องยาวนานตามที่คาดกันไว้ ซึ่งได้สกัดการคาดการณ์ของตลาดที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในกลางปีหน้า โดยค่าเงินยูโรเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2778 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2645 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับขึ้นที่ 1.5929 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5906 ดอลลาร์ และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 106.01 เยน เทียบกับระดับ 106.99 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9439 ฟรังค์ จาก 0.9546 ฟรังค์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8771 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8709 ดอลลาร์