"ปีนี้ GDP ของไทยอาจจะต่ำกว่า 2% แต่ก็มีแนวโน้มที่จะหลุด 1.5% ได้เหมือนกัน ถ้าในไตรมาส 4 นี้ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐที่ออกมาไม่สามารถปลดล็อกเงินให้เกิดการใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ"นายเบญจรงค์ กล่าว
สำหรับปี 58 คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวราว 4% แต่ยังมีความกังวลเกี่ยวกับแรงส่งของเศรษฐกิจในปีนี้ที่มีการฟื้นตัวช้ากว่าคาด ทั้งนี้ มองว่าปัจจัยที่จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้มากจากการเบิกจ่ายของภาครัฐ โดยเฉพาะเม็ดเงินที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนให้การลงทุนของภาคเอกชนสามารถเติบโตตามมาได้ ส่วนการส่งออกในปีหน้าคาดว่าจะเติบโตราว 3.5-4% เนื่องจากยังมีความเสี่ยงจากมาตรการยกเลิกสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) ของยุโรป
ขณะที่แนวโน้มสถาบันการเงินในปี 58 จะได้รับผลดีจากการเตรียมความพร้อมของภาคธุรกิจเพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งจะทำให้การปล่อยสินเชื่อภาคธุรกิจจะเติบโตมากกว่าสินเชื่อภาคการบริโภคที่ได้รับแรงกดดันจากหนี้ภาคครัวเรือนที่อย่ในระดับสูง ทำให้ขยายตัวไม่ได้เต็มที่
ส่วนทิศทางราคาพลังงานในตลาดโลกปีหน้า เชื่อว่าราคาน้ำมันจะยังไม่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากปีนี้ปรับลดลงมาค่อนข้างมาก โดยขึ้นกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและทิศทางเศรษฐกิจของประเทศที่นำเข้าพลังงานรายใหญ่ของโลก คือ จีน หากเศรษฐกิจจีนยังไม่ฟื้นตัวก็จะมีผลต่อราคาพลังงานในตลาดโลก