"จะเน้นสินค้าที่ประชาชนนิยมใช้สอยมากในชีวิตประจำวัน โดยจะร่วมมือกับผู้ผลิตสินค้าแบรนด์ต่างๆ ในการลดราคา รวมถึงการร่วมมือกับห้างสรรพสินค้า และร้านค้าต่างๆ ในการจัดมหกรรมลดราคาพร้อมกันทั่วประเทศ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.นี้เป็นต้นไปจนเดือนมกราคม 58" น.ส.ชุติมา กล่าว
ส่วนผลกระทบที่เกิดขึ้นจากปรับขึ้นราคาก๊าซ LPG และ NGV นั้น พบว่า มีผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตสินค้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ส่งผลให้ต้องปรับขึ้นราคาขายสินค้า และมีผลกระทบต่อเงินเฟ้อเพียงเล็กน้อยเช่นกัน มั่นใจว่าอัตราเงินเฟ้อทั้งปี 57 จะอยู่ในกรอบที่กระทรวงฯ กำหนดไว้ที่ 2.2-2.8%
ส่วนราคาข้าวเปลือกนาปีปี 57/58 ขณะนี้พบว่าราคาข้าวเปลือกชนิดต่างๆ เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยราคาข้าวเปลือกเจ้าอยู่ที่ตันละ 8,500 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลิอยู่ในเป้าหมายตันละ 15,000-16,000 บาท และข้าวเปลือกเหนียวตันละ 12,000 บาท จากเป้าหมายตันละ 13,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว(นบข.) เร็วๆ นี้ จะเสนอขยายมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรและพยุงราคาข้าว โดยให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ขยายการให้สินเชื่อแก่เกษตรกร ในอัตราดอกเบี้ย 0% เป็นระยะเวลา 4 เดือน โดยให้สินเชื่อเพิ่มขึ้นเป็น 90% จากเดิม 80% ของมูลค่าข้าวที่เก็บไว้ในยุ้งฉาง
สำหรับในปี 58 ตั้งเป้าผลักดันให้มูลค่าการค้าชายแดนเพิ่มขึ้นจากประมาณ 9 แสนล้านบาท เป็น 1.5 ล้านล้านบาท ส่วนการส่งออกในปี 58 เบื้องต้นประเมินว่าจะขยายตัวได้ 4-5% จากปีนี้ ซึ่งจะนำตัวเลขนี้ไปหารือกับภาคเอกชนอีกครั้ง ก่อนที่จะสรุปตัวเลขอย่างเป็นทางการ