นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 32.38/40 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวันพุธที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.32/33 บาท/ดอลลาร์ หลังค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าจากตัวเลขสหรัฐออกมาดีต่อเนื่อง
สาเหตุที่เงินบาทอ่อนค่าจากวันพุธที่ผ่านมา เนื่องจากตัวเลขผลประกอบการของบริษัทต่างๆ ตัวเลข Inflation ก็สูงกว่าที่คาดการณ์ นอกจากนี้ยังมีตัวเลขเศรษฐกิจของทางยุโรปก็ออกมาค่อนข้างดี ทำให้มองว่าเศรษฐกิจอาจจะไม่ได้แย่อย่างที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
ประกอบกับตลาดหุ้นสหรัฐฯบวกติดต่อกันมา 2 วัน
นักบริหารเงินคาดเงินบาทวันนี้จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.30-32.45 บาท/ดอลลาร์
"วันนี้เงินบาทอาจจะอ่อนค่าต่ออีกนิดหน่อย แต่เนื่องจากขึ้นมาเยอะแล้ว และตลาดค่อนข้างเงียบ นักลงทุนส่วนใหญ่ยังหยุดยาวต่อเนื่องจะกลับมาอีกทีคือวันจันทร์" นักบริหารเงิน กล่าว
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 108.01 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันพุธที่อยู่ที่ระดับ 106.95 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2656 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันพุธที่อยู่ที่ระดับ 1.2690 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.3140 บาท/ดอลลาร์
- ธปท.ร่อนหนังสือเวียนอย่างเป็นทางการ คลายกฎให้ภาคธุรกิจไทยสามารถยกเลิกประกันความเสี่ยงค่าเงินได้ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย.นี้เป็นต้นไป เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการทำธุรกิจ แต่คุมเข้มไม่ให้เก็งกำไรค่าเงิน สั่งเก็บรายละเอียดหลักถี่หยิบขณะเดียวกันเปิดทางให้ส่วนราชการไทยไม่ต้องแสดงเอกสาร ไม่ต่ออายุหรือยกเลิกธุรกรรมอนุพันธ์ได้ทุกกรณี
- นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการปรับปรุงกฎหมายการแข่งขันทางการค้าว่า จะจัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายเป็นครั้งสุดท้ายในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ จากนั้นจะยกร่างกฎหมาย ปรับปรุงเนื้อหาข้อบังคับให้เป็นสากลและรองรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558 โดยกำหนดเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาเห็นชอบภายในเดือนธันวาคมนี้
- นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปค ที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 21-22 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้แทนจากองค์กรระหว่างประเทศ ได้แก่ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ธนาคารโลก ธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ร่วมประชุมด้วย ได้มีการหารือถึงเศรษฐกิจโลกและแนวโน้มเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเปค ซึ่งที่ประชุมเห็นว่าชะลอกว่าที่คาด มีความเสี่ยงขาลงสูง ดังนั้นสมาชิกเอเปคต้องร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น เพื่อรับมือกับความเสี่ยงต่างๆ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
- บีโอไอเผย เตรียมชงบอร์ดขอส่งเสริมลงทุนเพิ่มอีก 24 โครงการ มูลค่ากว่า 9 หมื่นล้านบาท มีทั้งโครงการอีโคคาร์ 2 และโรงไฟฟ้า หลังต้นเดือน ต.ค.อนุมัติโครงการขนาดเล็กและขนาดกลาง ทั้งกลุ่มพลังงาน ผลิตเครื่องจักร เครื่องมือแพทย์ รวมถึงกิจการแปรรูปจากยาง ตามนโยบายส่งเสริมการใช้วัตถุดิบในประเทศ ไปแล้ว 1.2 หมื่นล้าน
- อธิบดีกรมบัญชีกลางแบ่งทีมผู้บริหารติดตามการเบิกจ่าย-เซ็นสัญญา 35 หน่วยงานภาครัฐงบประมาณปี 2558 เร่งรัดให้ดำเนินการตามมติรัฐบาล โดยโครงการไม่เกิน 500 ล้าน ต้องรีบเซ็นสัญญาภายใน 25 ธ.ค.นี้
- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบเงินเยนและปรับตัวขึ้นลงแตกต่างกันเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (23 ต.ค.) ขณะที่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่เป็นไปในเชิงบวก
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของยูโรโซนเพิ่มขึ้นแตะ 50.7 ในเดือนต.ค. จากระดับเดือนก.ย.ที่ 50.3 ซึ่งถือเป็นอีกสัญญาณที่บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจยูโรโซนสามารถเอาตัวรอดจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปีนี้ได้
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงเมื่อคืนนี้ (23 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ขานรับข้อมูลด้านแรงงานและผลประกอบการที่สดใสของภาคเอกชน