ด้านความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยใน 3 เดือนข้างหน้า ค่าดัชนีอยู่ที่ 76.11 ลดลงจากการสำรวจครั้งที่ผ่านมา (ค่าดัชนีเท่ากับ 80.75) แต่การที่ค่าดัชนียังอยู่ในระดับที่สูงกว่า 50 ค่อนข้างมาก สะท้อนให้เห็นว่านักเศรษฐศาสตร์มีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในอีก 3 เดือนข้างหน้าว่าจะปรับตัวดีขึ้นกว่าปัจจุบัน เช่นเดียวกับความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจในระยะ 6 เดือนข้างหน้าที่ค่าดัชนีอยู่ที่ 86.72 ลดลงจากการสำรวจครั้งที่ผ่านมา (ค่าดัชนีเท่ากับ 90.17) แต่การที่ค่าดัชนียังอยู่ในระดับที่สูงกว่า 50 ค่อนข้างมาก ทำให้เชื่อมั่นได้ว่าเศรษฐกิจในระยะ 6 เดือนข้างหน้าจะปรับตัวดีขึ้นกว่าปัจจุบัน
เมื่อพิจารณาปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระยะ 3-6 เดือนข้างหน้าพบว่าทุกปัจจัยมีการปรับตัวที่ดีขึ้นกว่าปัจจุบันโดยเฉพาะการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ การท่องเที่ยวจากต่างประเทศ การลงทุนภาคเอกชน ส่วนการบริโภคภาคเอกชน และภาคการส่งออก จะขยายตัวค่อนข้างช้ากว่าภาคเศรษฐกิจอื่นๆ
ด้านความเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ในประเด็นวัฏจักรเศรษฐกิจว่าปัจจุบันเศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงใดของวัฏจักร พบว่าส่วนใหญ่ เห็นว่าเศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว (Recovery) รองลงมา เห็นว่าอยู่ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ,ร้อยละ 14.1 เห็นว่าเศรษฐกิจอยู่ในช่วงตกต่ำ (Trough) มีเพียงร้อยละ1.6 ที่เห็นว่าเศรษฐกิจอยู่ในช่วงรุ่งเรือง (Peak)
เมื่อแบ่งวัฏจักรออกเป็น 2 ฟาก คือ ฟากเศรษฐกิจขยายตัวจนถึงจุดสูงสุด (ร้อยละ 37.5) และฟากเศรษฐกิจถดถอยจนถึงจุดต่ำสุด(ร้อยละ 53.2) แล้วเปรียบเทียบกับการสำรวจครั้งก่อนหน้าในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาจะพบว่า เศรษฐกิจปัจจุบันยังคงอยู่ในภาวะถดถอยและเคลื่อนเข้าสู่จุดต่ำสุดของวัฏจักรเศรษฐกิจซึ่งแตกต่างจากผลการประเมินครั้งก่อน ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าปัจจุบันเศรษฐกิจไทยยังไม่ได้เข้าสู่ช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว