"ในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ สามารถนำข้อมูลต่างๆที่ได้รับนี้ ไปประเมินทิศทางของการพัฒนาข้าวในตลาดข้าวที่มีทั้งหมดทั่วโลกในขณะนี้ ว่าจะดำเนินการไปในทิศทางใด นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากสถาบันวิจัยข้าวนานาชาติ (IRRI) อันเป็นศูนย์รวมของการทำวิจัยข้าวในด้านต่างๆ อยู่ในเครือข่ายของประเทศที่ผลิตข้าวทั้งหมด ซึ่งหวังว่าการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ต่างๆในการประชุมครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์ในการกำหนดทิศทางด้านเทคโนโลยีและการค้าขายข้าวของไทยต่อไป ทั้งนี้ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุมครั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ ได้มีการนำเสนอผลงานด้านการวิจัยเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากเวทีนี้ผู้เข้าร่วมประชุมส่วนใหญ่เป็น นักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ นักเศรษฐศาสตร์ ผู้บริโภค และตัวแทนของภาคส่วนต่างๆ" นายปีติพงศ์ กล่าว
นอกจากการประชุมสภาความร่วมมือการวิจัยข้าวแห่งเอเชียและการประชุมวิชาการข้าวนานชาติ ครั้งที่ 29 ซึ่งจะมีการนำเสนอผลงานทางวิชาการด้านข้าวแล้ว ภายในงานยังมีนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โดยนำโครงการในพระราชดำริ โครงการส่วนพระองค์ และพระราชดำรัสที่เกี่ยวข้องกับด้านข้าวมาจัดแสดง และนิทรรศการด้านนวัตกรรมสินค้า ที่เน้นด้านความหลากหลายของข้าว ที่ไม่ใช่เพียงเพื่อการบริโภคเท่านั้น ยังมีการพัฒนาไปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆอีกมากมาย อาทิ เครื่องสำอาง เจลยาชาในการทำฟัน ส่วนด้านเทคโนโลยีนั้น มีการจัดแสดงนวัตกรรม อาทิ หุ่นยนต์หยอดข้าวอัตโนมัติ เครื่องให้ความร้อนแบบไดอิเลกตริกสำหรับฆ่ามอดข้าว และกิจกรรมภาคสนามเป็นการศึกษาดูงาน ณ ศูนย์วิจัยข้าวปทุมธานี พร้อมเยี่ยมชมโรงสีและแปรรูปข้าวของภาคเอกชนอีกด้วย