(แก้ไข) ธ.ก.ส.เดินหน้าจ่ายสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี วงเงิน 2.57 หมื่นลบ.

ข่าวเศรษฐกิจ Saturday November 1, 2014 16:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส.ได้เริ่มเปิดตัวโครงการสินเชื่อชะลอขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2557/58 วงเงิน 25,740 ล้านบาท ตามมติของคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยเปิดให้ชาวนาในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 1พฤศจิกายน 2557 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2558 โดยจะเริ่มจ่ายเงินได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2557 ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2558 และชำระคืนเงินกู้ภายใน 4เดือนนับจากเดือนที่รับเงินกู้

ทั้งนี้โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี เป็นสินเชื่อช่วยเกษตรกรในช่วงที่ผลผลิตออกมาปริมาณมากและมีราคาตกต่ำ เพื่อให้เกษตรกรมีทางเลือกในการชะลอการขาย โดยไม่ต้องพะวงกับปัญหาเงินที่จะนำมาใช้จ่ายในครัวเรือนและภาระหนี้สิน โดยสามารถนำผลผลิต คือ ข้าวเปลือกหอมมะลิและข้าวเปลือกเหนียวมาขอกู้กับ ธ.ก.ส. อัตราร้อยละ 90 ของราคาตลาด วงเงินไม่เกินรายละ 300,000 บาท โดยไม่เสียดอกเบี้ย

นอกจากนี้ ธ.ก.ส.ยังมีโครงการสินเชื่อเพื่อการสร้างหรือปรับปรุงยุ้งฉาง และลานตากข้าว เนื่องจากเกษตรกรต้องขายข้าวเปลือกทันทีหลังการเก็บเกี่ยว เพื่อนำไปชำระค่าใช้จ่ายในการผลิตและค่าใช้จ่ายในครัวเรือน แต่เนื่องจากผลผลิตออกมาพร้อมกันเป็นจำนวนมากจึงทำให้ราคาผลผลิตตกต่ำ ดังนั้น ธ.ก.ส.จึงออกสินเชื่อเพื่อการสร้างหรือปรับปรุงยุ้งฉาง และลานตากข้าว เพื่อสามารถก่อสร้างและปรับปรุงยุ้งฉางและลานตากข้าวเปลือก เพื่อสามารถปรับปรุงคุณภาพและเก็บผลผลิตไว้แล้วจึงนำออกมาขายเมื่อราคาสูงขึ้น โดยมีวงเงินสินเชื่อ 1,000 ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ยสำหรับเกษตรกรทั่วไปที่ MRR หรือ 7.0%และสถาบันเกษตรกรในอัตรา MLR หรือ 5.0%โดยสินเชื่อสำหรับปรับปรุงยุ้งฉางหรือลานตากข้าวเดิมให้ชำระคืนภายใน 5 ปี ส่วนการสร้างยุ้งฉางและลานตากข้าวใหม่ชำระคืนภายใน 10 ปี โดยสามารถขอกู้ที่ ธ.ก.ส.ทุกสาขาตั้งแต่วันที่ 1ตุลาคม 2557 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2558

และเพื่อจูงใจให้เกษตรกรเก็บเกี่ยวโดยใช้แรงงานที่จะนำมาเก็บรักษาที่ยุ้งฉางของเกษตรกรจึงดำเนินการให้สินเชื่อเพื่อเตรียมข้าวเปลือกขึ้นยุ้งฉางเกษตรกร โดยให้เกษตรกรกู้ยืมเงินเพื่อเป็นทุนหมุนเวียนเป็นค่าใช้จ่ายในการเก็บเกี่ยวและตากข้าวให้แห้ง วงเงินไร่ละ 2,000 บาท กำหนดชำระคืนภายในเวลา 2 เดือน ตั้งแต่รับเงินกู้จาก ธ.ก.ส.โดยไม่เสียดอกเบี้ยแต่อย่างใด

“โครงการที่ ธ.ก.ส.ดำเนินการในครั้งนี้จะช่วยแบ่งเบาภาระให้กับเกษตรกรที่ต้องการเงินไปใช้จ่ายค่าปัจจัยการผลิตและใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ในช่วงที่ราคาผลผลิตตกต่ำเมื่อราคาผลผลิตสูงขึ้นจึงนำผลผลิตไปขายในราคาที่พึงพอใจ ซึ่งโครงการนี้จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพของเกษตรกรลูกค้าในด้านการผลิต การตลาดและเป็นแนวทางหนึ่งในการสนับสนุนการเพิ่มมูลค่าการผลิต (Value Added) ตลอดห่วงโซ่การผลิต" นายสมหมายกล่าว

"เดิมจะให้เกษตรกรกู้ในอัตรร้อยละ 80 ของราคาตลาด แต่จะเสนอ ครม.สัปดาห์ที่จะถึงนี้ขอเพิ่มเป็นให้กู้ได้ร้อยละ 90 ของราคาตลาด"รมว.คลัง กล่าว

พร้อมกันนี้ รมว.คลัง ยังกล่าวด้วยว่า มาตรการดูแลช่วยเหลือเกษตรกรจะต้องทำกันไปเป็นระยะยาว ไม่มีระยะปานกลาง ซึ่งรัฐบาลตั้งงบช่วยเหลือเกษตรกรไว้เบื้องต้น 2 แสนล้านบาท ใช้สำหรับช่วยเหลือเกษตรกรทางตรง 1 แสนล้านบาท เช่นการให้สินเชื่อ การจ่ายเงิน 1,000 บาทต่อไร่ ฯลฯ และช่วยเหลือทางอ้อมอีก 1แสนบาท เช่น ช่วยเหลือด้านต้นทุนการผลิต เป็นต้น

สำหรับเงิน 15,000 บาทที่จ่ายให้เกษตรกรถือเป็นเงินช่วยพยุงฐานะให้เกษตรกรในช่วงที่ชะลอการขายข้าวนาปี รอจนข้าวเริ่มราคาดีค่อยนำมาขายน่าจะทำให้เกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น

รมว.คลัง ยังแสดงความมั่นใจว่าราคาข้าวปีนี้น่าจะดี โดยราคาข้าวหอมมะลิปีนี้น่าจะอยู่ที่ 16,000 บาทต่อตัน เนื่องจากมีความต้องรอซื้อจากเอกชนจำนวนมาก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ