ทั้งนี้เอสเอ็มอีของไทยจะมีโอกาสได้ประชุมหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และหาโอกาสทางการค้าการลงทุนกับหอการค้ามัณฑะเลย์ พบปะและเยี่ยมชมโรงงานของผู้ประกอบการไทยที่ดำเนินธุรกิจในเมียนมาร์จนประสบความสำเร็จ เช่น เครือเจริญโภคภัณฑ์ เครือสหพัฒน์ และโอกาสนี้เอสเอ็มอีไทย จะได้ลงพื้นที่สำรวจธุรกิจการค้าการลงทุนและตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคที่ตลาดขายส่งเซโซ (Zaycho) และตลาดมิงกาลาร์เซ (Mingalar Zay) และตลาดบากิ่น (Bagint Market) ซึ่งเป็นตลาดที่จำหน่ายสินค้าอุปโภคและสินค้าแปรรูปเกษตรจากไทยที่ใหญ่ที่สุดในย่างกุ้ง รวมถึงพบหารือกับผู้บริหารนิคมอุตสาหกรรมพะโค
พร้อมกับเยี่ยมชมโรงงานผู้ผลิตเครื่องเขินรายใหญ่ที่ดำเนินการโดยรัฐบาลเมียนมาร์ และชมโรงงานผลิตเครื่องสำอางทานาคา ภูมิปัญญาพื้นบ้านที่มีชื่อเสียง
“ปัจจุบันเมียนมาร์เป็นประเทศที่น่าสนใจ และเป็นหนึ่งในประเทศกลุ่มเป้าหมายอันดับแรก ของบีโอไอ ในการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยเข้าไปลงทุน กิจกรรมในครั้งนี้จึงจะเป็นโอกาสพิเศษของผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะกลุ่ม เอสเอ็มอีที่จะได้เข้าไปศึกษาลู่ทางและศักยภาพด้านการค้าและการลงทุนในแต่ละพื้นที่ของเมียนมาร์ได้โดยตรง เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจในการมองหาโอกาสขยายตลาดการค้า การลงทุน หรือเชื่อมโยงการผลิต ที่อาจเป็นรูปแบบของการร่วมทุนกับผู้ประกอบการเมียนมาร์ ในอนาคต" น.ส.รัตนวิมล กล่าว