ปัจจัยของราคาน้ำมันในปีหน้ามาจากภาวะเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้น ขณะที่การเติบโตของอุปทานมากกว่าอุปสงค์ โดยคาดว่าอุปสงค์น้ำมันในตลาดโลกอาจเพิ่มขึ้นไม่ถึง 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน มาอยู่ที่ราว 92.9 ล้านบาร์เรล/วัน ขณะที่อุปทานเพิ่มขึ้นราว 1.4 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งจะส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบดูไบปีหน้าน่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในระดับ 90-95 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
นายสุกฤตย์ กล่าวว่า สหรัฐซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันได้มากที่สุดของโลกสามารถผลิตน้ำมันเพิ่มเป็น 1.5 ล้านบาร์เรล/วัน หรือเพิ่มขึ้น 4 แสนบาร์เรล/วัน ทำให้ลดการพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันดิบลงได้ โดยเฉพาะน้ำมันดิบชนิดเบา ขณะที่กลุ่มโอเปกยังเพิ่มผลผลิตได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะซาอุดิอาระเบีย และการกลับมาส่งออกน้ำมันของประเทศลิเบีย ส่วนอิรักที่มีปัญหาการบุกรุกพื้นที่ทางตอนเหนือ ทำให้สูญเสียการส่งออกน้ำมันไปบางส่วนนั้น ก็ยังไม่ถึงกับกระทบกับภาพรวมการส่งออกน้ำมันมากนัก และอิหร่านที่มีความคืบหน้าในการแก้ปัญหาโครงการนิวเคลียร์กับประเทศมหาอำนาจ ก็น่าจะกลับมาส่งออกน้ำมันได้มากขึ้นด้วย ตลาดโลกจึงมีอุปทานน้ำมันเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก
"demand ดีขึ้น แต่ยังน้อยกว่า supply ที่เพิ่มขึ้น โดยในปี 58 มองว่า demand น่าจะเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน แม้ว่ากลุ่มโอเปกมีแนวโน้มการผลิตน้ำมันลดลงคาดว่าจะอยู่ที่ 29.3 ล้านบาร์เรล/วัน จากขณะนี้ 29.5 ล้านบาร์เรล/วัน แต่ก็ยังมีการผลิตน้ำมันได้อย่างต่อเนื่องต่อจากซาอุดิอาระเบีย ลิเบีย อิรักและอิหร่านที่จะสามารถกลับเข้ามาส่งออกน้ำมันได้มากขึ้น หลังปัญหาความรุนแรงในประเทศชะลอลง ขณะที่กลุ่มนอกประเทศโอเปก โดยเฉพาะสหรัฐผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น 4 แสนบาร์เรล/วัน ส่งผลให้ปีนี้สหรัฐฯเติบโตอย่างรวดเร็วในรอบ 30 ปีจากการลดการนำเข้าน้ำมัน"นายสุกฤตย์ กล่าว