ส่วนแผนการแก้ไขปัญหาของรัฐวิสาหกิจนั้น วันนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.)ได้ส่งแผนฟื้นฟูกิจการมาแล้ว แต่กระทรวงคมนาคมขอนำกลับไปทบทวนแผนอีกครั้ง เนื่องจากเห็นว่ายังขาดการวางโครงสร้างและบทบาทการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจทั้ง 2 แห่งในอนาคต
ส่วนกรณีของการสื่อสารแห่งประเทศไทย(กสท.) และบมจ.ทีโอที นั้น ขณะนี้ คนร.อยู่ระหว่างการแยกประเภทธุรกิจประกอบการภายในของรัฐวิสาหกิจทั้ง 2 แห่งก่อน และจะดูว่าธุรกิจใดบ้างจะสามารถนำมาช่วยส่งเสริมกับธุรกิจดิจิตัลในอนาคตได้บ้าง ส่วนจะมีการยุบรวมกิจการที่มีการบริหารงานเหมือนกันหรือไม่นั้นยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษา แต่คาดว่าภายในเดือนธ.ค.นี้จะเห็นความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ส่วนธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย(IBank) และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(SME Bank) อยู่ระหว่างการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของ 2 ธนาคาร ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนนี้
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมเป็นเจ้าภาพในการจัดทำและลงนามข้อตกลงคุณธรรมของโครงการจัดซื้อรถโดยสาร NGV ของ ขสมก. และโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยายของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) อย่างเป็นทางการ รวมทั้งจัดให้มีผู้สังเกตการณ์อิสระในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างในขั้นตอนที่สำคัญด้วย
นายกุลิศ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมคนร.ยังเห็นชอบในหลักการให้มีการพิจารณาปรับปรุงกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการให้เอกชนร่วมลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะ(PPP) ให้มีความเหมาะสม โดยคาดว่าไตรมาสแรกในปี 58 จะได้เห็นการปรับปรุงกฎหมายดังกล่าว
พร้อมกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน คนร. ยังมอบหมายว่า ในการประชุมครั้งหน้า ต้องการเห็นรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งจัดโครงการหรือมีผลงานออกมาเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชนในปี 2558 ด้วย