ทั้งนี้ภายในงานจะมีการบรรยายพิเศษเน้นให้ความรู้ครอบคลุมในด้านต่างๆ ได้แก่ การใช้สิทธิประโยชน์ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนด้านเครื่องจักร ด้านวัตถุดิบ ด้านภาษีเงินได้นิติบุคคล รายละเอียดของนโยบายส่งเสริมการลงทุน สิทธิประโยชน์ฯและการให้บริการของบีโอไอ
รวมถึงการสร้างความเข้าใจในนโยบายส่งเสริมศักยภาพและสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี (กิจการที่มีเงินลงทุนไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียนไม่น้อยกว่า 500,000 บาท) โดยเฉพาะมาตรการส่งเสริมการลงทุนแก่เอสเอ็มอี ซึ่งเปิดให้ผู้ประกอบการใน 39 ประเภทกิจการ ครอบคลุมใน 4 กลุ่มอุตสาหกรรม ได้แก่ กิจการเพิ่มมูลค่าแก่สินค้าเกษตร กิจการที่ใช้ทักษะการผลิตค่อนข้างสูงและเป็นอุตสาหกรรมสนับสนุนที่สำคัญ กิจการเชิงสร้างสรรค์ และกิจการบริการและสนับสนุนการท่องเที่ยว สามารถยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอได้โดยได้รับสิทธิและประโยชน์ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร และยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี เป็นสัดส่วนร้อยละ 100 ทั้งนี้มาตรการดังกล่าว จะสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2557 เท่านั้น
“บีโอไอได้จัดกิจกรรมเพื่อให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเอสเอ็มอีได้รับทราบนโยบายและเข้ามายื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไออย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้มาตรการต่างๆ จะมีระยะเวลาที่กำหนดไว้ ดังนั้นผู้ประกอบการจึงควรต้องเร่งศึกษาข้อมูล และตัดสินใจ เนื่องจากจะเป็นส่วนช่วยเพิ่มขีดความสามารถแข่งขันให้กับผู้ประกอบการได้ในอนาคต” นางชุติมา กล่าว
อย่างไรก็ตาม บีโอไอยังมีนโยบายและมาตรการเพื่อช่วยเหลือสนับสนุนเอสเอ็มอีครอบคลุมในด้านต่างๆ เพิ่มเติม อาทิ มาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อการประหยัดพลังงาน การใช้พลังงานทดแทน หรือการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม มาตรการส่งเสริมให้ปรับเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต รวมถึงมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อการวิจัย และออกแบบทางวิศวกรรมเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ ซึ่งภายใต้มาตรการดังกล่าวจะเปิดให้เอสเอ็มอีสามารถยื่นแผนการดำเนินงานตามที่กำหนด ภายในวันที่ 31 ธันวคม 2560