รมว.พลังงาน กล่าวว่า ขณะนี้มีความจำเป็นต้องปรับโครงสร้างราคาพลังงานเพื่อความยั่งยืนทั้งในส่วนของราคาน้ำมันและก๊าซ ซึ่งที่ผ่านมายอมรับเป็นเรื่องยาก เพราะมีปัจจัยการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เนื่องจากตนเองไม่ได้ต้องการเล่นการเมืองหลังจากรับตำแหน่งนี้ จึงต้องตัดสินใจทำ ซึ่งในส่วนของน้ำมันมีแนวโน้มจะปรับลดลง ด้วยการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงให้น้อยลง ส่วนก๊าซนั้นดูช่วงจังหวะเวลาที่เหมาะสมเพื่อปรับราคา แต่คงไม่ใช่ช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่เพราะเกรงว่าจะกระทบต่อความรู้สึกของประชาชน
"เรื่องปรับราคาต้องทำ น้ำมันและก๊าซเตรียมตัวจ่าย มาแน่นอน ก็เข้าใจว่า คสช.ตั้งใจคืนความสุขใกล้ช่วงปีใหม่เราก็เกรงใจมากหน่อย กลัวว่าจะมันเหมือนคืนความทุกข์ แต่รับรองมาแน่ๆ แนวโน้มน้ำมันลงต่อ เก็บเข้ากองทุนน้อยลง แล้วเอาไปจ่ายค่ากับข้าวเพิ่มขึ้นบ้าง"นายณรงค์ชัย กล่าว
ส่วนการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบใหม่นั้น นายณรงค์ชัย ระบุว่า ปัจจุบันดีมานด์และซัพพลายด้านพลังงานของประเทศไม่สอดคล้องกัน ปริมาณความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ผลผลิตไม่ทันต่อความต้องการ เพราะไม่ได้มีการสำรวจแหล่งพลังงานรอบใหม่เป็นเวลานาน จึงมีความจำเป็นต้องเดินหน้าในเรื่องนี้ แต่เพื่อไม่ประมาทจำเป็นต้องวางระบบท่อก๊าซนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านมาเพิ่มเติมด้วย
นอกจากนี้ ยังตั้งใจที่จะเดินหน้าสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อรองรับการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นมาก ส่วนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์คงยังไม่ดำเนินการในช่วงนี้ แต่อาจมีความจำเป็นในอนาคต ซึ่งคงมีการศึกษาตัวอย่างในประเทศอื่นไปก่อน ทั้งนี้จะต้องมีการปรับกรุงการทำงานของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานให้ประชาชนเกิดความมั่นใจด้วย