ทั้งนี้ หากคอฟโก้ตกลงซื้อข้าวจากไทยเพิ่ม 2 ล้านตัน จะมีการลงนามในระดับรัฐมนตรีระหว่างกันภายในเดือนธ.ค.นี้ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีนครบรอบ 40 ปี และในโอกาสที่สมเด็จพระเทพฯมีพระชนมายุครบรอบ 60 พรรษา
ส่วนกรณีที่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำสินค้าเกษตรระบุว่ามีข้าวเหลือในสต๊อก 19.1 ล้านตันนั้น เป็นตัวเลขที่คำนวณถึงวันที่ 22 พ.ค.57 เท่านั้น แต่หลังจากที่ตนมารับมอบหมายงานในตำแหน่งรมว.พาณิชย์ ข้าวในสต๊อกได้มีการระบายออกจนเหลือในสต๊อก 18 ล้านตัน ซึ่งการระบายจะยึดตามกรอบยุทธศาสตร์ที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว(นบข.) มีมติไว้ โดยเร็วๆ นี้ คณะอนุกรรมการพิจารณาการระบายข้าวจะเสนอกรอบการระบายข้าวรอบใหม่ให้นบข.พิจารณา อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า การระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาลจะไม่กระทบต่อราคาข้าวเปลือกในประเทศที่กำลังทยอยออกมา
สำหรับปัญหาข้าวเปลือกหอมมะลิราคาตกต่ำ และไม่เป็นไปตามการขอความร่วมมือกลุ่มผู้ส่งออกและโรงสี ที่ให้รับซื้อข้าวในราคาตามที่ตกลงไว้ คือ ข้าวเปลือกหอมมะลิตันละ 15,000-16,000 บาท และข้าวสารหอมมะลิกิโลกรัม (กก.) ละ 29-30 บาท ปัญหาเกิดชาวนาเก็บเกี่ยวข้าวที่มีความชื้นสูง เพราะเป็นช่วงฝนตกหนัก ทำให้ราคาข้าวไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ แต่หลังจากนี้เชื่อว่าเมื่อผ่านฤดูฝน ข้าวจะมีความชื้นต่ำลง น่าจะทำให้ราคาข้าวหอมมะลิปรับตัวสูงขึ้นตามเป้าหมายได้ ซึ่งตนจะเชิญกลุ่มชาวนา โรงสี และผู้ส่งออกข้าว มาทำความเข้าใจกันใหม่ เพื่อผลักดันให้ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิเป็นไปตามที่กำหนด