สตง.เตรียมลงพื้นที่ตรวจทุจริตจ่ายเงินชาวนาหลังพบใช้ฐานข้อมูลเดิมปี 54

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday November 18, 2014 11:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้าเตรียมลงพื้นที่ 26 จังหวัดในภาคกลาง เพื่อตรวจสอบกระบวนการจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนาตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล สำหรับช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวไร่ละ 1 พันบาท จำนวนไม่เกิน 15 ไร่ หรือครัวเรือนละไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท เพื่อป้องกันการเกิดทุจริตในโครงการทั้งจากเจ้าหน้าที่และเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ

ทั้งนี้ เบื้องต้น สตง. พบว่า ฐานข้อมูลการขึ้นทะเบียนของกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่จะใช้เพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวดังกล่าว เป็นฐานข้อมูลเดียวกันกับที่ใช้ในการดำเนินโครงการประกันรายได้ของเกษตรกรเมื่อปี 2554 ซึ่งมีส่วนหนึ่งไม่ถูกต้องและไม่เป็นปัจจุบัน เช่น เกษตรกรแจ้งพื้นที่เพาะปลูกมากกว่าที่เพาะปลูกจริง หรือเกษตรกรไม่มีพื้นที่เพาะปลูกจริงแต่แจ้งว่ามีพื้นที่เพาะปลูก และเกษตรกรมีที่ดินทำกินจำนวนมากเกินกว่าเกณฑ์ที่กำหนดจึงแบ่งที่ดินของตนให้บุตรหรือญาติพี่น้องถือครองเพื่อให้จำนวนที่ดินอยู่ภายในเกณฑ์ที่กำหนด เป็นต้น

สำหรับกระบวนการตรวจสอบจะดำเนินการทั้งในส่วนที่ได้มีการจ่ายเงินไปแล้ว โดยจะเข้าไปติดตามว่ามีการดำเนินการจ่ายเงินอย่างถูกต้อง และเงินถึงมือชาวนาอย่างแท้จริง ไม่มีการหักค่าหัวคิว หรือคิดค่าธรรมเนียมต่างๆ และตรวจสอบในส่วนที่เตรียมจ่ายเงินด้วยว่าถูกต้องหรือไม่ ซึ่งคาดว่ากระบวนการดังกล่าวจะช่วยป้องกันการทุจริตได้ 99.99%

การดำเนินการครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง สตง. และคณะกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ปปท.) ที่รับผิดชอบภาคเหนือและภาคใต้ ส่วนกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) รับผิดชอบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยในกรณีนี้ สตง.เห็นว่าเป็นจุดเสี่ยงให้เกิดการทุจริตในขั้นตอนการขึ้นทะเบียนเกษตรกรและการรับรองพื้นที่ โดยอาจเป็นช่องทางให้ผู้ที่ไม่ซื่อสัตย์แจ้งข้อมูลไม่ตรงตามความเป็นจริง ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ทำหนังสือเพื่อชี้แจงให้นายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาแล้ว" นายพิศิษฐ์ กล่าว

นายพิศิษฐ์ กล่าวอีกว่า กระบวนการตรวจสอบครั้งนี้จะมีการดำเนินการผ่านระบบกำหนดตำแหน่งบนพื้นโลกผ่านดาวเทียม(Global Positioning System:GPS) ในการตรวจสอบพื้นที่ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและชัดเจนที่สุด โดยเบื้องต้นคาดว่าจะได้ข้อสรุปทั้งหมดในส่วนที่ สตง.รับผิดชอบภายใน 1 เดือน ก่อนรายงานให้นายกรัฐมนตรีรับทราบต่อไป โดยหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิด จะดำเนินการเอาผิดทางอาญาแผ่นดินอย่างถึงที่สุด และหากเกษตรกรกระทำความผิด แม้เพียงเล็กน้อยก็ตามแต่ถือเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดจะมีโทษทางอาญาเช่นกัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ