นอกจากนี้ ให้สำนักงบประมาณ ตั้งงบประมาณค่าใช้จ่ายในการบริหารโครงการ จำนวน 1 ล้านบาท ให้แก่กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ที่กระทรวงการคลัง ได้อนุมัติให้กันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีแล้ว เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารกำกับการดำเนินงานโครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบการยาง ให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่กำหนดไว้
นายโอฬาร พิทักษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตร เปิดรับสมัครเกษตรกรเข้าร่วมโครงการสนับสนุนสินเชื่อเกษตรกรชาวสวนยางรายย่อยเพื่อประกอบอาชีพเสริม ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย. 57 – 31 ม.ค. 58 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางรายย่อยที่มีเงินทุนไม่เพียงพอ ให้มีเงินทุนในการประกอบอาชีพเสริมด้านการเกษตรตามศักยภาพของตนเอง เพิ่มรายได้ต่อการดำรงชีพ วงเงินกู้ ไม่เกิน 100,000 บาท ต่อครัวเรือน จัดทำทางเลือกเพื่อเป็นทางเลือกในการวางแผนการทำอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้แก่เกษตรกรชาวสวนยางพารา เพื่อประกอบการตัดสินใจในการสร้างอาชีพอื่นทางการเกษตร โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อาทิ กรมปศุสัตว์ กรมประมง
ทั้งนี้ เกษตรกรจะต้องเป็นเกษตรกรชาวสวนยางพารารายย่อย และมีความประสงค์เข้าร่วมโครงการเพื่อประกอบอาชีพเสริมด้านการเกษตร ตามศักยภาพของตนเอง โดยมีคุณสมบัติดังนี้ 1. มีสัญชาติไทย 2. เป็นหัวหน้าครัวเรือน หรือสมาชิกในครัวเรือนที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตร (สินเชื่อที่ได้รับ 1 ครัวเรือนต่อ 1 สิทธิ์ เท่านั้น) โดยกรมส่งเสริมการเกษตรส่งรายชื่อและข้อมูลของเกษตรกรที่สมัครเข้าร่วมโครงการ ให้คณะกรรมการบริหารโครงการระดับจังหวัดซึ่งจะต้องพิจารณากลั่นกรอง และให้ความเห็นชอบแผนการผลิต/แผนธุรกิจในการประกอบอาชีพเสริมของเกษตรกร ส่งให้ ธ.ก.ส. ต่อไป
ธ.ก.ส. พิจารณาอนุมัติเงินกู้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติปกติของธนาคาร ไม่เกินครัวเรือนละ 100,000 บาท หากได้รับการพิจารณาอนุมัติ กรมฯ จะร่วมมือกับ สำนักงานกองทุนสังเคราะห์การทำสวนยาง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถ่ายทอดความรู้แก่เกษตรกรตามแผนการผลิตต่อไป
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า เกษตรกรชาวสวนยางที่เข้าร่วมโครงการฯ จะได้รับเงินกู้ไม่เกิน 100,000 บาท ต่อ ครัวเรือน ให้ระยะการชำระเงินกู้ไม่เกิน 5 ปี มีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี โดยเรียกเก็บจากเกษตรกรชาวสวนยางพาราในอัตราร้อยละ 2 ต่อปี และรัฐบาลจะชดเชยดอกเบี้ยให้ ธ.ก.ส. ในอัตราร้อยละ 3 ต่อปี
ส่วนในกรณีที่เป็นการกู้เงินเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายหมุนเวียน กำหนดชำระคืนเสร็จไม่เกิน 12 เดือนนับแต่วันกู้ เว้นแต่มีเหตุพิเศษให้ชำระคืนเสร็จไม่เกิน 18 เดือนเป็นเวลา 5 ปี และในกรณีที่เป็นการกู้เงินเพื่อเป็นค่าลงทุน ให้กำหนดชำระหนี้คืนเป็นรายเดือน หรือรายไตรมาส หรือราย 6 เดือน หรือรายปี ตามความสามารถในการชำระหนี้ และที่มาแหล่งรายได้ของลูกค้า โดยให้ชำระหนี้คืนเสร็จไม่เกิน 5 ปีนับแต่วันกู้ และหากถ้าเกษตรกรไม่สามารถชำระเงินกู้ได้ในเวลาที่กำหนดชำระคืนเงินกู้ หลังครบกำหนดให้ธ.ก.ส.สามารถปรับเงื่อนไขการกู้เงิน และการเรียกเก็บดอกเบี้ยได้ตามข้อบังคับและวิธีปฏิบัติของธนาคาร