สำหรับการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจนั้น สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) หรือสภาพัฒน์ จะต้องทำความเข้าใจกับประชาชน เพื่อให้ได้เห็นทิศทางของประเทศอย่างชัดเจนว่าจะไปในทางใด เพื่อทำให้เกิดความมั่นใจ เพราะหากประชาชนมีความมั่นใจและสถานการณ์ทางการเมืองดี ก็จะทำให้ทิศทางประเทศดีขึ้นด้วย
"เราผ่านสิ่งที่เลวร้ายมาแล้ว เรื่องนโยบายเศรษฐกิจที่จะพัฒนามีการพูดมานานแล้ว แต่ไม่เคยมีการ kick off ซึ่งครั้งนี้จะเป็นการ kick off จริง" นายสมคิด ระบุ
ส่วนการแก้ปัญหาการคอร์รัปชั่น นายสมคิด กล่าวว่า หากมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเสมอภาค มีการตรวจสอบชัดเจน ก็เชื่อว่าทุกฝ่ายจะช่วยกันแก้ปัญหานี้ได้ เช่น กรณีประเทศจีนที่มีการดำเนินการอย่างเฉียบขาด มีการตามมาตัวคนผิดมาลงโทษ ไม่เว้นแม้คนมีอำนาจ
ขณะที่การปฏิรูปประเทศก็เริ่มมีความหวังแล้ว เนื่องจากผู้นำของประเทศลงมาดูแลเรื่องนี้ด้วยตนเอง ซึ่งเห็นได้จากการประชุมร่วมกัน 5 ฝ่ายเมื่อวานนี้ในระดับผู้นำในแต่ละฝ่าย ก็เชื่อว่าจะทำให้การปฏิรูปเดินหน้าไปด้วยดี เพื่อเป็นการวางรากฐานประเทศที่ดีในอนาคต หากดำเนินการให้เรียบร้อยได้ก็เชื่อว่าการพัฒนาประเทศจะทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจเป็นไปตามธรรมชาติ ไม่ใช่เป็นการขยายตัวแบบจอมปลอมอย่างที่ผ่านๆ มา
นายสมคิด ย้ำว่า ประเด็นสำคัญในทุกเรื่องที่รัฐบาลต้องทำนั้น คือจะต้องสื่อให้ประชาชนเข้าใจและเกิดการตื่นตัวเพื่อเข้ามามีส่วนร่วม
"หากประชาชนเข้าใจและเข้ามามีส่วนร่วม วันหน้าจะได้ไม่ต้องมาเดินประท้วง ไม่มีประเทศไหนที่ปฏิรูปโดยไม่มีวิกฤติ อันนี้ถือเป็นโอกาส เป็นจังหวะที่ดี ในระยะเวลาอีก 1 ปีของคสช.ที่เหลือจะทำให้การทำงานเป็นโอกาสที่ดี" ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี กล่าว