พาณิชย์คุมเข้มราคาอาหารจานด่วน-ก๋วยเตี๋ยวป้องกันผู้ค้าฉวยโอกาสขึ้นราคา

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 19, 2014 15:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบสถานการณ์ราคาสินค้าทั่วประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้พ่อค้าแม่ค้าฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้า โดยเฉพาะร้านอาหารปรุงสำเร็จ ร้านข้าวแกง และร้านก๋วยเตี๋ยว หลังมีการปรับขึ้นเงินเดือนและค่าครองชีพข้าราชการชั้นผู้น้อย ทั้งที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องต้นทุนวัตถุดิบในการประกอบอาหาร

ทั้งนี้หากผู้บริโภคพบเห็นผู้ค้าฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าอย่างไม่เป็นธรรม สามารถร้องเรียนมาได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 กรมฯจะส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบ และหากพบว่า ร้านใดปรับขึ้นราคาสินค้าแบบผิดปกติและไม่สามารถชี้แจงต้นทุนให้สมเหตุสมผลได้ กรมฯจะขอความร่วมมือให้จำหน่ายสินค้าในราคาเดิมก่อน และหากไม่ให้ความร่วมมือก็จะดำเนินการตามกฎหมายในเรื่องของการจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินควร คือมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

"ได้มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสินค้าทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสินค้าใดที่อ่อนไหวก็จะตรวจสอบ หรือติดตามอย่างใกล้ชิด เช่น ข้าวสารบรรจุถุง ไข่ไก่ อาหารจานด่วน ผักสด น้ำมันพืช เนื้อหมู เป็นต้น โดยส่วนใหญ่ราคาอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าปีก่อน โดยเฉพาะผักเริ่มเข้าสู่หน้าหนาวก็ยิ่งทำให้ราคาถูกลงอีก ซึ่งทั้งหมดก็ไม่มีเหตุผลที่จะให้ร้านค้าปรับขึ้นอาหาร" นายบุณยฤทธิ์ กล่าว

ขณะเดียวกัน ตนเองได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ออกสุ่มตรวจสอบสถานีบริการน้ำมัน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการน้ำมัน ก๊าซแอลพีจี และเอ็นจีวี ซึ่งสถานีบริการจะต้องจ่ายน้ำมันและก๊าซให้เต็มลิตร เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภคได้ เบื้องต้นจากการตรวจสอบ พบว่า สถานีบริการน้ำมันส่วนใหญ่ก็เติมน้ำมันเติมอยู่แล้ว โดยเฉพาะแอลพีจีและเอ็นจีวีที่มีการเติมให้ผู้บริโภคเกินนิดหน่อย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี

ด้านน.ส.นพพร ลิ้นทอง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวภายหลังการตรวจร้านจำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จ ครัววันดี ฮาลาลฟู้ดส์ เขตดอนเมือง กรุงเทพว่า ร้านครัววันดี เป็นร้านแบบอย่างที่ดีของผู้ประกอบการ มีการจำหน่ายอาหารทุกอย่างจานละ 20 บาท ต่ำกว่าราคาที่กำหนดให้ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ “หนูณิชย์พาชิม" ขายที่ไม่เกินจานละ 25-35 บาท ซึ่งก็มีกำไรวันละ 30% เพราะมีการบริหารจัดการที่ดี ทั้งเรื่องของต้นทุนและการจ่ายค่าจ้างพนักงานก็ไม่ต่ำกว่า 300 บาทต่อวัน

สำหรับภาพรวมของโครงการ “หนูณิชย์พาชิม" ล่าสุด มีร้านอาหารปรุงสำเร็จเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 2,000 ร้านค้าทั่วประเทศ แยกเป็นในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 1,400 ราย ที่เหลือเป็นร้านในส่วนภูมิภาค ซึ่งจะทยอยเปิดตัวอย่างต่อเนื่อง โดยร้านที่เข้าร่วมโครงการ กรมฯ สนับสนุนวัตถุดิบราคาถูกให้ เพื่อช่วยลดต้นทุน เช่น น้ำมันพืชมรกต ซื้อได้ในราคาขวดละ 33-36 บาท จากปกติขวดละ 42 บาท และแบบถุง 31.67-32.50 บาท จากปกติถุงละ 40.50 บาท น้ำปลาตราทิพรส ฉลากเหลือง ราคา 23.33 บาท จากปกติ 26 บาท รวมถึงจะช่วยสนับสนุนก๊าซหุงต้ม โดยได้ประสานกับกระทรวงพลังงานให้ร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการสามารถซื้อก๊าซหุงต้มได้ในราคาเดิม คือ ขนาด 15 กิโลกรัม ถังละ 262 บาท (ไม่รวมค่าขนส่ง)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ