"ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบประวัติโรงสี เมื่อตรวจสอบเสร็จแล้วก็ให้ประสานมายังกรมฯ เพื่อพิจารณาอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการได้ คาดว่า การดำเนินการดังกล่าว น่าจะทำให้ราคาข้าวเปลือกในประเทศปรับตัวสูงขึ้นได้ เพราะโรงสีต้องแย่งกันซื้อเพื่อมาเก็บไว้ก่อน เป็นการดึงผลผลิตออกจากตลาดมากถึง 6 ล้านตัน" นายบุณยฤทธิ์ กล่าว
เนื่องจากขณะนี้หมดฤดูฝนแล้วเกษตรกรสามารถตากข้าวให้แห้งก่อนนำมาขายให้กับโรงสีได้ นอกจากนี้รัฐยังมีโครงการช่วยเหลือเกษตรกรเพื่อชะลอการขายข้าวเปลือกหลายโครงการ เช่น การจำนำข้าวเปลือกที่ยุ้งฉางของเกษตรกรภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนเกษตรกรภาคกลาง ที่ไม่มียุ้งฉางก็สามารถนำข้าวเปลือกมาขายให้กับกลุ่มสหกรณ์การเกษตรในพื้นที่ในราคานำตลาดได้ โดยรัฐมีโครงการเพิ่มมูลค่าสินค้าข้าว วงเงินประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มสหกรณ์การเกษตรเหล่านี้สามารถเข้าร่วมโครงการ เพื่อนำเงินไปซื้อข้าวจากเกษตรกรและนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีมูลค่าเพิ่มได้