ส่วนกลุ่ม 2 จากอาเซียนและเอเชีย มาวันที่ 10 - 13 ธ.ค.นี้ โดยกลุ่มที่เดินทางมามากที่สุด คือ อาเซียน 77 ราย รองลงมาเป็นจีนและฮ่องกง, อเมริกาเหนือ, แอฟริกา, ญี่ปุ่น และเกาหลี ตามลำดับ โดยยุโรป สนใจสินค้าอาหารและอาหารแปรรูป เครื่องดื่ม อัญมณี ชิ้นส่วนเครื่องทำความเย็น เครื่องปรับอากาศ
"การที่ผู้นำเข้าจำนวนมากเดินทางเจรจาสั่งซื้อสินค้าจากไทยในครั้งนี้ ถือเป็นข่าวดีที่จะทำให้มูลค่าการส่งออกของไทยในปีหน้าขยายตัวเพิ่มขึ้น เบื้องต้นได้ตั้งเป้าหมายการขยายตัวสำหรับปี 58 ไว้ที่ 4% จากปีนี้ ซึ่งน่าจะเป็นไปได้" รมว.พาริชย์ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัท กว่างสี ซันไรซ์ จากจีน ยังได้ทำสัญญากับตลาดไทเพื่อซื้อลำไยจากไทย เป็นลำไยสด 23 ตัน และลำไยแห้ง 16 ตัน รวมมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท มีกำหนดทยอยส่งมอบทั้งปี 58 ซึ่งจะส่งผลให้ราคาลำไยในประเทศปรับตัวสูงขึ้นได้ และไม่เกิดผลผลิตล้นตลาด
ขณะเดียวกัน ผู้นำเข้าอาหารจากรัสเซีย และเกาหลีใต้ ยังสนใจนำเข้าไก่สด และเนื้อหมูสดจากไทย ภายหลังจากที่ทั้ง 2 ประเทศได้ส่งหน่วยงานด้านสุขอนามัยมาตรวจโรงงานไก่สดในไทย หลังจากไทยปลอดไข้หวัดนกมานานแล้ว คาดว่าทั้ง 2 ประเทศจะนำเข้าไก่สดจากไทยได้ในเร็วๆ นี้ โดยเฉพาะรัสเซีย ที่มีความต้องการจำนวนมาก เพราะถูกยุโรปคว่ำบาตรทางการค้าจากกรณีการสู้รบในยูเครน
สำหรับสินค้าและบริการของไทยที่มีศักยภาพในตลาดเป้าหมาย ได้แก่ ข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าว อาหารสำเร็จรูป ผัก ผลไม้กระป๋อง เครื่องดื่ม น้ำผลไม้ ซอสปรุงรส เครื่องปรุง ผัก-ผลไม้แห้ง อาหารสัตว์เลี้ยง ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในครัวเรือน ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว-เสริมความงาม เครื่องประดับ และสินค้าอุตสาหกรรมหนัก เช่น วัสดุก่อสร้าง ผลิตภัณฑ์พลาสติก ชิ้นส่วนรถเข็นผู้สูงอายุ และชิ้นส่วนยานยนต์ เป็นต้น