พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีการนำทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าออกให้ไปใช้ประโยชน์ในการทำนิติกรรมและประกอบธุรกิจจำนวนมาก ตนเองจึงได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าในฐานะหน่วยงานผู้รับจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล เพิ่มความเข้มงวดในการรับจดทะเบียนจัดตั้ง และเพิ่มทุนของห้างหุ้นส่วนและบริษัทให้มากขึ้น โดยให้มีการส่งเอกสารประกอบการจดทะเบียนที่น่าเชื่อถือและสามารถยืนยันได้ว่ามีการชำระเงินลงทุนตามที่ขอจดทะเบียนจัดตั้งหรือจดทะเบียนเพิ่มทุน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับห้างหุ้นส่วนและบริษัทที่จัดตั้งให้ได้รับความเชื่อถือทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ให้เริ่มบังคับใช้กับธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีทุนจดทะเบียนเกินกว่า 5 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งจะมีผลต่อผู้ยื่นจดทะเบียนตั้งใหม่ประมาณ 4% ของผู้ยื่นขอจดทะเบียนทั้งหมด หรือ 2,500 รายต่อปี จากธุรกิจที่จดทะเบียนตั้งใหม่ 60,000-65,000 รายต่อปี โดยคำสั่งดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค.58 เป็นต้นไป
"จากนี้ไป กรมฯได้กำหนดให้ผู้ขอจดทะเบียนต้องแสดงหลักฐานการรับเงินลงทุนจากผู้ถือหุ้นต่อนายทะเบียนในวันที่ยื่นจด และต้องแสดงหลักฐานการโอนเงินเข้าบัญชีห้างหุ้นส่วนและบริษัทที่จัดตั้งภายใน 15 วัน หากเป็นการลงทุนด้วยทรัพย์สินต้องแสดงหลักฐานการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ในทรัพย์สินนั้นๆ ภายใน 90 วันนับจากวันจัดตั้ง ส่วนกรณีเพิ่มทุนห้างหุ้นส่วนและบริษัทต้องแสดงหลักฐานการชำระเงินค่าหุ้นที่ธนาคารออกให้ต่อนายทะเบียนในวันยื่นขอเพิ่มทุนด้วย" พล.อ.ฉัตรชัย กล่าว