เนื่องจากในช่วง 2 เดือนที่เหลือของปีนี้ หน่วยงานทุกภาคส่วนของไทยต่างดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาดอย่างเข้มข้น และการจัดกิจกรรมในแต่ละพื้นที่เพื่อกระตุ้นการเดินทางมาท่องเที่ยวยังประเทศไทยในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ รวมถึงผู้ประกอบการในหลายพื้นที่ของไทย โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวหลักส่วนใหญ่มีการนำเสนอโปรโมชั่นราคาห้องพัก และการจัดรายการส่งเสริมการขายต่างๆ มากมาย (เช่น การจัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้าแบรนด์เนม เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มที่ชื่นชอบกิจกรรมช้อปปิ้ง เป็นต้น) จากปัจจัยข้างต้น จึงมีความเป็นไปได้ที่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายปีนี้ ซึ่งเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ (ช่วงไฮซีซั่น) ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทยอาจจะกลับมาฟื้นตัวเป็นบวกได้ในกรอบแคบๆ (จากที่ถดถอยต่อเนื่องมาในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้)
สำหรับทิศทางตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่สำคัญของไทยในช่วงไฮซีซั่นปี 2557 คือ นักท่องเที่ยวชาวยุโรป โดยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของแต่ละปี นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคยุโรปนิยมเลือกเดินทางเข้ามายังประเทศไทย โดยเฉพาะปลายทางท่องเที่ยวทางทะเลในภาคใต้ (อาทิ ภูเก็ต กระบี่ พังงา สุราษฎร์ธานี เป็นต้น) ซึ่งส่วนใหญ่ใช้เวลาพำนักในไทยสูงกว่านักท่องเที่ยวจากภูมิภาคอื่น (คือ เฉลี่ยอยู่ที่ 16.52 วัน ในปี 2556) จึงทำให้การใช้จ่ายต่อทริป (เฉลี่ย 68,412.79 บาทต่อคน ในปี 2556) มีมูลค่ามากกว่าอัตราการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อทริปของนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดประมาณ 3 เท่า
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ตลาดนักท่องเที่ยวยุโรปของไทยในช่วงไฮซีซั่นปีนี้ อาจจะไม่คึกคักเหมือนกับช่วงเดียวกันของหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งนอกจากมีปัจจัยภายในของไทยที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติบางกลุ่มแล้ว นักท่องเที่ยวชาวยุโรปหลายประเทศยังต้องเผชิญกับปัจจัยด้านเศรษฐกิจ ซึ่งอาจจะสะท้อนได้จากสถิติการเดินทางเข้ามายังประเทศไทยของนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคยุโรปในเดือนตุลาคม 2557 พบว่า มีนักท่องเที่ยวจำนวน 4.33 แสนคน ลดลงร้อยละ 10.8 จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (ซึ่งเป็นการติดลบต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2557) ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการชะลอตัวของตลาดนักท่องเที่ยวหลักของภูมิภาคนี้ คือ รัสเซีย ที่ในเดือนตุลาคม 2557 มีจำนวน 1.15 แสนคน ลดลงร้อยละ 23.2 จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยอัตราชะลอตัวดังกล่าวเป็นการลดลงต่ำสุดนับตั้งแต่ที่ติดลบครั้งแรกในเดือนเมษายน 2557 ซึ่งเป็นผลมาจากความเปราะบางของเสถียรภาพทางด้านเศรษฐกิจของรัสเซีย อย่างไรก็ดี หากไม่รวมนักท่องเที่ยวรัสเซีย จะพบว่า ภาพรวมนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคยุโรปที่เดินทางมายังประเทศไทยในเดือนตุลาคม 2557 ลดลงร้อยละ 5.3 จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากตลาดนักท่องเที่ยวยุโรปหลายประเทศยังชะลอตัว เช่น สเปน กลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย เป็นต้น แต่คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจากบางประเทศในภูมิภาคนี้ที่มีพื้นฐานเศรษฐกิจที่ดี (เช่น เยอรมนี อังกฤษ ฝรั่งเศส เป็นต้น) ยังคงแผนการเดินทางมายังประเทศไทยในช่วงไฮซีซั่นปีนี้
ด้านตลาดนักท่องเที่ยวระยะใกล้จากภูมิภาคเอเชีย มีการปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น โดยมีสัญญาณบ่งชี้มาจากตลาดสำคัญ คือ นักท่องเที่ยวชาวจีน ที่ในเดือนตุลาคม 2557 ขยายตัวถึงร้อยละ 67.0 จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (โดยมีจำนวน 5.01 แสนคน) แต่การเติบโตดังกล่าวเป็นการเทียบกับฐานที่ต่ำในเดือนตุลาคมปี 2556 ที่ทางการจีนมีการบังคับใช้กฎหมายควบคุมคุณภาพทัวร์ จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมายังประเทศไทยลดลงกว่าช่วงปกติ ทั้งนี้ สำหรับการเติบโตของตลาดนักท่องเที่ยวจีนในเดือนตุลาคม 2557 นั้น เป็นการปรับตัวดีขึ้นกว่า 2 เท่าตัวจากที่เคยลดลงต่ำสุดที่ระดับ 2.17 แสนคนในเดือนมิถุนายน 2557 ที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่านักท่องเที่ยวสำหรับชาวจีน (ระหว่างวันที่ 9 สิงหาคม - 8 พฤศจิกายน 2557) ประกอบกับการเดินทางมายังประเทศไทยช่วงวันหยุดยาววันชาติจีน (ช่วงต้นเดือนตุลาคมของทุกปี) ที่มีวันหยุดติดต่อกันถึง 7 วัน อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามปัจจัยแวดล้อมที่อาจส่งผลต่อตลาดนักท่องเที่ยวจีนของไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ อาทิ มาตรการส่งเสริมตลาดนักท่องเที่ยวชาวจีนของรัฐบาลไทย หลังจากที่มาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าจะสิ้นสุดลงในเดือนพฤศจิกายน 2557 รวมถึงภาวะการแข่งขันและการดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวจีนในหลายประเทศ เช่น เกาหลีใต้ เวียดนาม เป็นต้น
ขณะเดียวกัน ตลาดนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชียที่เดินทางมายังประเทศไทยในเดือนตุลาคม 2557 ที่มีการขยายตัวเป็นบวก อาทิ มาเลเซีย อินเดีย เป็นต้น จากแนวโน้มข้างต้น ตลาดนักท่องเที่ยวระยะใกล้จากภูมิภาคเอเชียมีแนวโน้มจะช่วยหนุนตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทยในช่วงไฮซีซั่นปีนี้และภาพรวมทั้งปี 2557
สำหรับภาพรวมตลอดทั้งปี 2557 ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทยน่าจะติดลบในระดับร้อยละ 5.8 จากปีก่อนหน้า (ที่ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 18.8) โดยมีนักท่องเที่ยวรวมทั้งสิ้นประมาณ 25.0 ล้านคน และสร้างรายได้ท่องเที่ยวสะพัดภายในประเทศมูลค่าประมาณ 1.167 ล้านล้านบาท ลดลงร้อยละ 3.3 จากปี 2556 ที่มีรายได้ท่องเที่ยวมูลค่าประมาณ 1.207 ล้านล้านบาท ขณะที่แนวโน้มการเติบโตของตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทยในปี 2558 ยังมีหลายประเด็นท้าทายที่ต้องจับตา เพราะอาจจะส่งผลต่อการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวไทย โดยประเด็นระดับมหภาค อาทิ เสถียรภาพทางการเมืองที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นในสายตาชาวต่างชาติ ภาวะเศรษฐกิจในประเทศซึ่งเป็นตลาดนักท่องเที่ยวเป้าหมายหลักของไทย โดยเฉพาะจีน รัสเซีย และประเทศในภูมิภาคยุโรป นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเฉพาะของภาคธุรกิจบริการด้านท่องเที่ยว เช่น มาตรการด้านความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว ที่จะเรียกความเชื่อมันด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวกลับคืนมา รวมทั้งการแสวงหาช่องทางและดำเนินกิจกรรมทางการตลาดเพื่อเจาะลูกค้าใหม่ๆ เป็นต้น