"เราปรับเกณฑ์ให้สิทธิประโยชน์เหมือนกับสิงคโปร์ แต่เราได้เปรียบเรื่องภูมิศาสตร์ที่ตั้งเป็นศูนย์กลางของอาเซียน" ร.อ.นพ.ยงยุทธ กล่าว
ส่วนปัญหาและอุปสรรคเกี่ยวกับมาตรการที่มิใช่ภาษี เช่น การออกวีซ่าตอนนี้อยู่ไม่เกิน 2 ปีต้องแจ้งที่พักทุก 90 วัน หรือกรณีอนุญาตให้คนต่างชาติทำงานได้ไม่เกิน 10 คน หรือการกำหนดสัดส่วนการจ้างงานคนต่างชาติ 1 คนต่อคนไทย 4 คน
สำหรับเงื่อนไขใหม่กำหนดให้ IHQ เป็นบริษัทตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยเพื่อให้บริการต่างๆวิสาหกิจในเครือทั้งในและต่างประเทศ โดยมีทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท มีวิสาหกิจในเครือสาขาในต่างประเทศอย่างน้อย 1 แห่งมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับ IHQ อย่างน้อย 15 ล้านบาท
โดยจะได้สิทธิประโยชน์เรื่องภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับคนต่างด้าวระดับผู้เชี่ยวชาญผู้บริหารระดับสูงเหลือ 15%, ยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะสำหรับการให้กู้แก่วิสาหกิจในเครือทั้งในและต่างประเทศ, ยกเว้นภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายสำหรับดอกเบี้ยจากการให้กู้ต่อแก่วิสาหกิจในเครือทั้งในและต่างประเทศตามหลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)
ส่วน ITC จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับยอดขายจากการจัดซื้อและขายสินค้าในต่างประเทศ, ลดภาษีเหลือ 10% สำหรับยอดขายจากการจัดซื้อสินค้าที่เป็นวัตถุดิบหรือสินค้าขั้นกลางในประเทศและขายให้กับวิสาหกิจในเครือในต่างประเทศเพื่อใช้ในการผลิต, ยกเว้นภาษีหัก ณ ที่จ่ายสำหรับเงินปันผลที่จ่ายโดย ITC ไปยังต่างประเทศ
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการปรับปรุงระเบียบการออกวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน เช่น ออกระเบียบอนุญาตให้คนต่างชาติที่ทำงาน IHQ/ITC อยู่ในประเทศไทยได้ครอบคลุมตามระยะเวลาที่ BOI กำหนด, ปรับสัดส่วนการจ้างงานคนต่างชาติเราคนไทยเป็น 1 ต่อ 1, กรณีได้รับส่งเสริมการลงทุนจะลดระยะเวลาการจดแจ้งหนังสือรับรองเหลือ 15 วัน แต่ถ้าไม่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากอนุญาตให้เหลือ 30 วัน