BBL-KBANK-สแตนดาร์ดฯร่วมทำธุรกรรม Bond Switching วงเงิน 7.62 หมื่นลบ.

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday December 2, 2014 18:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกฤษฎา อุทยานิน ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กล่าวว่า ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) และธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลไทย ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการการแลกพันธบัตรสำหรับการดำเนินธุรกรรมแลกพันธบัตร (Bond Switching) จำนวน 76,235 ล้านบาท (ประมาณ 2,300 ล้านเหรียญสหรัฐ)

สำหรับธุรกรรมแลกเปลี่ยนพันธบัตรครั้งนี้นับว่าเป็นก้าวสำคัญในหลายๆ มิติของประเทศไทย ธุรกรรมแลกเปลี่ยนพันธบัตรถือเป็นการดำเนินการเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ซึ่งมีวงเงินการทำธุรกรรมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของตลาดตราสารหนี้ไทย โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรที่กำลังจะครบกำหนดและขยายอายุของพันธบัตร และเสริมสร้างสภาพคล่องในตลาดรองตลอดจนเป็นการปูทางสำหรับการดำเนินธุรกรรมแลกเปลี่ยนพันธบัตรในอนาคต โดยความสำเร็จของธุรกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นจากการให้ความร่วมมือจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจากทุกภาคส่วนในการร่วมผลักดันการพัฒนาตลาดตราสารหนี้อย่างต่อเนื่อง และแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความเป็นผู้นำของตลาดตราสารหนี้ไทยในภูมิภาค

จากการดำเนินธุรกรรมนี้ รัฐบาลสามารถแลกพันธบัตรสกุลเงินบาทที่มียอดคงค้างซึ่งจะครบกำหนดในเดือนพฤษภาคม 2558 (LB155A) เป็นพันธบัตรสกุลเงินบาทที่มีรุ่นอายุหลากหลายได้แก่ พันธบัตรที่ชำระคืนเงินต้นเพียงครั้งเดียว (Bullet bond) LB176A ครบกำหนดในปี 2560, LB191A ครบกำหนดในปี 2562, LB21DA ครบกำหนดในปี 2564 และพันธบัตรที่ทยอยชำระคืนเงินต้น (Amortizing bond) LBA37DA ครบกำหนดในปี 2580

การดำเนินการดังกล่าวช่วยให้รัฐบาลบรรลุเป้าหมายสองประการ คือลดความเสี่ยงในการปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรที่กำลังจะครบกำหนด และเพิ่มสภาพคล่องของพันธบัตรที่นักลงทุนสนใจแลก (Destination bond)

ยอดเสนอแลกพันธบัตรอยู่ที่ 80,732 ล้านบาท จาก 50 กว่าบัญชี ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างสูง โดยเป็นนักลงทุนภายในประเทศ 95% และจากต่างประเทศ 5% อนึ่ง มีนักลงทุนเสนอแลกพันธบัตรมาจากสถาบันการเงิน 63% นักลงทุนระยะยาว 32% และนักลงทุนต่างชาติ (Non-resident) 5%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ