สศอ.เล็งเจรจาลดโควตานำเข้าเหล็กจากญี่ปุ่น รอสรุป 11 ธ.ค.นี้

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday December 3, 2014 11:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม(สศอ.)เปิดเผยผลการหารืออุตสาหกรรมเหล็กไทย–ญี่ปุ่น จากการเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมThe 10th Japan-Thailand Steel Cooperation Program Expert Committee และ The 12th Japan-Thailand Steel Dialogue ฝ่ายญี่ปุ่นได้เป็นเจ้าภาพจัดขึ้น เมื่อวันที่ 19-20 พ.ย.57 ณ กรุงโตเกียวว่า การหารือครั้งล่าสุด มี 2 ประเด็นสำคัญ คือ การกำหนดปริมาณโควตานำเข้าเหล็กแผ่นรีดร้อนจากประเทศญี่ปุ่นสำหรับปี 58 และโครงการความร่วมมือทางด้านวิชาการ

ในเรื่องของโควตานั้นไทยจะพยายามลดปริมาณนำเข้าเหล็กลงให้มากที่สุด เพื่อที่จะส่งเสริมให้อุตสาหกรรมต่อเนื่องได้ใช้ผลิตภัณฑ์เหล็กภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยจะมีการหารือเพื่อสรุปปริมาณนำเข้าอีกครั้งในวันที่ 11 ธ.ค.57 ที่กรุงเทพฯ ส่วนโครงการความร่วมมือทางด้านวิชาการเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมเหล็กฝ่ายไทยต้องการพัฒนาศูนย์ทดสอบของสถาบันเหล็กเพื่อยกระดับให้เป็นศูนย์ทดสอบของอาเซียน ทั้งนี้เพื่อเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์เหล็ก และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับอุตสาหกรรมเหล็กภายในประเทศให้มีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น

อนึ่ง จากการที่ประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นได้มีการลงนามในความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น(JTEPA) เมื่อปี 50 ภายใต้ความตกลงมีประเด็นการสร้างความร่วมมือทางด้านการค้า การลงทุน การแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์อุตสาหกรรมเหล็กของทั้ง 2 ประเทศ การกำหนดปริมาณโควตานำเข้าเหล็กแผ่นรีดร้อนจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งไทยจะยกเว้นภาษีศุลกากรในบางพิกัดเป็นระยะเวลา 10 ปี (ปี 50-59) รวมทั้งการดำเนินโครงการความร่วมมือทางด้านวิชาการเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมเหล็กไทย โดยผู้แทนของทั้งสองประเทศ จะมีการหารือร่วมกันในการประชุม Japan-Thailand Steel Cooperation Program Expert Committee และ Japan-Thailand Steel Dialogue ซึ่งจะจัดขึ้นอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และทั้งสองประเทศจะสลับกันเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม

ตั้งแต่ปี 50-57 ฝ่ายไทยได้ยกเว้นภาษีนำเข้าเหล็กแผ่นรีดร้อนจากประเทศญี่ปุ่น โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1. เหล็กแผ่นรีดร้อนกัดกรดเคลือบน้ำมัน (Q9) ประมาณปีละ 440,000-530,000 ตัน 2. เหล็กแผ่นรีดร้อนหน้ากว้างสำหรับนำไปรีดเย็นต่อ (ที่มีส่วนผสมของคาร์บอนน้อยกว่า 0.01%) (Q10) ประมาณปีละ 170,000-350,000 ตัน และ 3. เหล็กแผ่นรีดร้อนหน้ากว้างสำหรับนำไปรีดเย็นต่อเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ (ที่มีส่วนผสมของคาร์บอน 0.01-0.1 %)(Q11) ประมาณปีละ 300,000-400,000 ตัน ซึ่งปริมาณโควตานำเข้าเหล็กแผ่นรีดร้อนนี้คิดเป็นประมาณร้อยละ 50-80 ของปริมาณนำเข้าเหล็กแผ่นรีดร้อนทั้งหมดจากญี่ปุ่น

ส่วนความร่วมมือทางด้านวิชาการที่อุตสาหกรรมเหล็กของไทยได้รับจากญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 51 จนถึงปี 56 มีดังนี้

  • การสัมมนา Steel Construction Seminar ที่ประเทศญี่ปุ่น จำนวน 5 ครั้ง
  • การสัมมนา EAF Environment & Energy-saving Technology Exchange Meeting ที่ประเทศญี่ปุ่น
  • อบรมเรื่องการใช้ Regenerative burner ปี 51 ที่ประเทศญี่ปุ่น
  • และมีการจัดสัมมนาที่ไทย 3 ครั้ง ในหัวข้อ TPM ในปี 53 (1 ครั้ง) และหัวข้อ Improvement and standardization of steel testing laboratory in Thailand จำนวน 2 ครั้ง ในปี 55
  • ญี่ปุ่นส่งผู้เชี่ยวชาญหารือกับหน่วยงานต่างๆ ในไทยเพื่อศึกษาแนวโน้มการใช้เหล็กในอุตสาหกรรมก่อสร้าง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ