"เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุดังกล่าว กระทรวงอุตสาหกรรมจึงขอเตือนให้ผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมได้จัดให้มีการซ้อมแผนป้องกันและระงับอัคคีภัย รวมทั้งดูแลบริเวณโรงงานและบริเวณใกล้เคียงให้ปราศจากวัสดุหรือสิ่งของที่สามารถติดไฟได้ง่าย อาคารโรงงานต้องปราศจากสิ่งสกปรกรกรุงรัง จัดเก็บวัตถุดิบให้เป็นหมวดหมู่ โดยเฉพาะวัตถุดิบที่สามารถติดไฟได้ง่าย วัตถุไวไฟ และวัตถุระเบิด เครื่องจักร อุปกรณ์ ที่สำคัญคือการตรวจสอบระบบไฟฟ้า ต้องมีการบำรุงรักษาให้โรงงานได้อย่างปลอดภัยตลอดเวลา รวมทั้งจัดให้มีระบบดับเพลิง เครื่องดับเพลิง และระบบสัญญาณเตือนภัยอย่างเพียงพอเป็นไปตามกฎหมายกำหนด มีผู้ควบคุมดูแลและมีเวรยามเฝ้าระวังตลอดเวลา โดยปฏิบัติให้เป็นไปตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมเรื่องการป้องกันและระงับอัคคีภัยในโรงงาน พ.ศ.2552" โฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าว
ด้านนายพสุ โลหารชุน อธิบดี กรอ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ทุกครั้งที่เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานหรือเหตุฉุกเฉิน กรอ.ได้จัดชุดเจ้าหน้าที่เคลื่อนที่เร็วเพื่อเข้าพื้นที่โรงงานที่เกิดเหตุในทันทีที่ได้รับการแจ้งหรือทราบข่าว เพื่อสนับสนุนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงในด้านเทคนิคข้อมูลเชิงลึก เช่น สารเคมี วัตถุอันตราย วิธีดับเพลิงที่มีประสิทธิภาพสำหรับวัตถุต้นเพลิงที่แตกต่างกัน พร้อมกับมีรถห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่(Mobile Lab) ที่มีอุปกรณ์เบื้องต้นในการวิเคราะห์คุณภาพอากาศ น้ำทิ้ง รวมทั้งมลพิษ เพื่อดูแลด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เข้าไประงับเหตุ ซึ่งรถดังกล่าวมี 6 คันประจำอยู่ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมโรงงาน ส่วนกลางมี 1 คัน ส่วนภูมิภาคมี 5 คัน ได้แก่ ชลบุรี ราชบุรี ขอนแก่น เชียงใหม่ และสงขลา