"ธ.ก.ส.พร้อมจ่ายเงินสินเชื่อชะลอขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2557/58 วงเงิน 25,740 ล้านบาท ตามมติของคณะรัฐมนตรี(ครม.) โดยเปิดให้ชาวนาในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือนำข้าวเปลือกหอมมะลิและข้าวเปลือกเหนียวเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2557 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2558 โดยได้มีการสำรวจความพร้อมของยุ้งฉางของเกษตรกรและสหกรณ์การเกษตร มีความจุข้าวเปลือกได้ไม่น้อยกว่า 4.87 ล้านตัน" นายสุพัฒน์ เอี้ยวฉาย ผู้ช่วยผู้จัดการ ธ.ก.ส.กล่าว
โดยโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี เป็นสินเชื่อรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือกในช่วงที่ผลผลิตออกมาปริมาณมากและมีราคาตกต่ำ เพื่อให้เกษตรกรมีทางเลือกในการชะลอการขาย โดยไม่ต้องพะวงกับปัญหาเรื่องเงินที่จะนำมาใช้จ่ายในครัวเรือนและภาระหนี้สิน โดยสามารถนำผลผลิต คือ ข้าวเปลือกหอมมะลิและข้าวเปลือกเหนียวตามชั้นคุณภาพมาขอกู้กับ ธ.ก.ส.ในอัตราร้อยละ 90 ของราคาตลาด เช่น ข้าวเปลือกหอมมะลิความชื้นไม่เกิน 15% สิ่งเจือปนไม่เกิน 2 % ชนิดสีได้ต้นข้าวมากกว่า 36 กรัม ราคาเป้าหมายอยู่ที่ตันละ 16,000 บาท ชาวนาจะได้รับเงินสินเชื่อเพื่อชะลอการขายตันละ 14,400 บาท ส่วนข้าวเปลือกเหนียวราคาเป้าหมายอยู่ที่ตันละ 13,000 บาท ชาวนาจะได้รับสินเชื่อเพื่อชะลอการขายที่ตันละ 11,700 บาท ไม่เกินรายละ 300,000 บาท กำหนดระยะเวลาการชำระคืนเงินกู้ภายใน 4 เดือนนับจากเดือนที่ได้รับเงินกู้
นอกจากนี้ ธ.ก.ส.ยังจ่ายเงินให้กับเกษตรกรและสหกรณ์การเกษตรเป็นค่าเช่าและค่าดูแลเก็บรักษาข้าวเปลือกในยุ้งฉางเพิ่มอีกตันละ 1,000 บาท โดยเกษตรกรและสหกรณ์การเกษตรจะต้องเก็บข้าวเปลือกให้มีคุณภาพดีในยุ้งฉางตลอดระยะเวลาเข้าร่วมโครงการ แต่ไม่น้อยกว่า 30 วันขึ้นไป และสำหรับเกษตรกรที่มีความจำเป็นต้องการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเตรียมข้าวเปลือกให้มีคุณภาพก่อนนำข้าวเปลือกขึ้นยุ้งฉาง ธ.ก.ส.จะพิจารณาสนับสนุนสินเชื่อเพิ่มเติมให้อีกไร่ละ 2,000 บาท กำหนดระยะเวลาชำระคืน 2 เดือน โดยเกษตรกรไม่ต้องเสียดอกเบี้ย ซึ่งเกษตรกรท่านใดสนใจสามารถติดต่อแจ้งความจำนงได้ที่ ธ.ก.ส.ทุกสาขาใกล้บ้าน