สำหรับสัญญาเงินกู้ วงเงินกู้รวม 1,800 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ(6 หมื่นล้านบาท) ระยะเวลา 22 ปี แบ่งเป็น เงินบาท ร้อยละ72 และเงินดอลล่าร์สหรัฐ ร้อยละ 28 โดยกู้จากสถาบันการเงินทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ประกอบด้วย ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)ธนาคารมิซูโฮ คอร์ปอเรต จำกัด (MIZUHO CORPORATE BANK) แบงก์ออฟโตเกียว มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ(BTMU) และ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) (CIMBT) โดยมีธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เป็นตัวแทนสินเชื่อ (Facility Agent)ฝั่งธนาคารในประเทศ และ BTMUเป็นตัวแทนสินเชื่อ (Facility Agent)ฝั่งต่างประเทศ ส่วนธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เป็นตัวแทนหลักประกันในประเทศ (Security Agent)และ แบงก์ออฟโตเกียว มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ(บีทีเอ็มยู)เป็นตัวแทนหลักประกันต่างประเทศ(Security Agent)" นายสารัชถ์ กล่าว
นายสารัชถ์ กล่าวอีกว่า โครงการโรงไฟฟ้า SPP ของกลุ่มบริษัท กำลังการผลิตรวม 1,470 เมกะวัตต์ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ จังหวัดระยอง จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดอยุธยา จังหวัดสระบุรี และ จังหวัดนครราชสีมา แต่ละโรงไฟฟ้าจะขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) ภายใต้โครงการผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก ไฟฟ้าและไอน้ำส่วนที่เหลือ รวมไปถึงการขายไอน้ำและน้ำเย็นจะขายให้กับโรงงานที่อยู่โดยรอบโรงไฟฟ้านั้น ทางบริษัทเลือกใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง เพราะเป็นพลังงานสะอาด นอกจากนี้ เรายังเลือกเทคโนโลยีระบบโคเจนเนอเรชั่นโดยผลิตทั้งไฟฟ้าและไอน้ำ ถือเป็นการใช้ทรัพยากรก๊าซธรรมชาติอย่างคุ้มค่าและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด และจะสามารถช่วยเสริมระบบไฟฟ้าของประเทศให้มีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น
"ทางบริษัทฯ มีความพร้อมในการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้า โดยได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรทางธุรกิจอย่างบริษัท มิตซุย แอนด์ คอมปานี ลิมิเตด(Mitsui & Co., Ltd.) ในการสนับสนุนให้โครงการสามารถดำเนินการได้เป็นอย่างดี การร่วมเป็นพันธมิตรกันในครั้งนี้จะสามารถขยายโอกาสการลงทุนทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศผ่านทางเครือข่ายธุรกิจญี่ปุ่นของมิตซุย ซึ่งจะสามารถขยายเครือข่ายและเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันของกลุ่มบริษัทกัลฟ์ให้แข็งแกร่งขึ้น ตลอดจนได้ดึงธนาคารจากต่างประเทศเข้ามามีส่วนร่วม"นายสารัชถ์ กล่าว
นายอัมเบะ ชินทาโร่ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซุย แอนด์ คอมปานี ลิมิเตด เปิดเผยว่า มิตซุยเคยร่วมงานกับกัลฟ์มาแล้วรวม 20 ปี ในฐานะผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการ แต่ก็มีความตั้งใจที่จะลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้า มิตซุยจะลงทุนในประเทศไทยไปอีก 100 ปี และสำหรับวันนี้เราทำสำเร็จแล้ว ได้มีโลโก้บริษัทมาอยู่เคียงข้างกันในฐานะผู้ร่วมทุน
บริษัท มิตซุยแอนด์คัมปนี จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทการค้าทั่วไป รายใหญ่ที่สุดของโลก และมีเครือข่ายใน 69 ประเทศทั่วโลก ดำเนินธุรกิจหลากหลายประเภท เช่น การค้าสินค้านานาชนิด การให้บริการและการอำนวยความสะดวกในทางการเงินในเชิงพาณิชย์แก่ลูกค้าและซัพพลายเออร์ทั่วโลก รวมทั้งดำเนินการจัดการอย่างเป็นระบบในโครงการขนาดใหญ่ โดยอาศัยเครือข่ายทางธุรกิจที่ครอบคลุมอยู่ทั่วโลก และกลุ่มบริษัทมิตซุยยังมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติ เช่น น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ วัตถุดิบประเภทเหล็กและเหล็กกล้า เป็นต้น
นางภิมลภา สันติโชค ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า สัญญาเงินกู้ของกลุ่มบริษัทกัลฟ์ ถือว่าเป็นโครงการเงินกู้โรงไฟฟ้าเอสพีพีแบบ Portfolio Financing ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยในปัจจุบันในแง่ทั้งกำลังการผลิตและมูลค่าเงินกู้รวม