ในแถลงการณ์ ระบุว่า รัฐบาลชุดนี้บริหารจัดการแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำผิดวิธี และใช้งบประมาณ 58,00 ล้านบาทแต่ก็ไม่สามารถทำให้ราคายางสูงขึ้นมาได้ และผลประโยชน์ก็ไม่ตกถึงเกษตรกรอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะการช่วยปัจจัยการผลิต 1,000 บาทต่อไร่ ไม่เกิน 15 ไร่ต่อราย ซึ่งเกษตรกรที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ คนกรีดยางไม่ได้รับผลประโยชน์จากมาตรการนี้ทำให้ชาวสวนยางหลายรายเครียดฆ่าตัวตาย แนวร่วมกู้ชีพสวนยางได้พยายามเสนอปัญหาให้รัฐมนตรีทราบแต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไขและราคายางกลับตกต่ำลง
ดังนั้น แนวร่วมกู้ชีพชาวสวนยางจึงยืนยันตามมติที่ประชุมใหญ่วันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมาให้รัฐบาลรับซื้อยาพารากิโลกรัมละ80 บาท หรือจนกว่าจะพอใจโดยชดเชยเป็นพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งมาตรการนี้จะสามารถช่วยเหลือชาวสวนยางได้ทุกคน โดยจะให้เวลารัฐบาลถึงสิ้นเดือนธันวาคมหากไม่เป็นไปตามข้อเรียกร้อง ชาวสาวยางทั่วประเทศจะเดินทางมาพบนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล
"เราให้โอกาสถึงสิ้นปี ถ้าถึงปีใหม่ราคายางไม่เป็นที่พอใจ ผมจะให้ชาวสวนยางเดินทางมาหาพล.อ.ประยุทธ์ที่ทำเนียบรัฐบาล"นายสุนทร กล่าว
อย่างไรก็ตาม ทางแนวร่วมกู้ชีพชาวสวนยางได้ประมาณการงบประมาณในการซื้อยางพาราแผ่นดิบชั้นสามไว้ที่ 1 ล้านตันจนถึงฤดูปิดกรีด (ตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงมีนาคม) โดยชดเชยส่วนต่างกิโลกรัมละ 30-40 บาท เป็นเงินงบประมาณที่ออกพันธบัตร 3-4 หมื่นล้านบาท ซึ่งเชื่อว่ามาตรการนี้ได้ผลอย่างแน่นอน และรัฐบาลไม่ต้องจ่ายเงินให้กับชาวสวนยางจนกว่าจะครบกำหนดระยะเวลาของพันธบัตร
พร้อมกันนี้นายสุนทรยังเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีปลด รมว.คลังและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ออกจากตำแหน่งเพราะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้แต่กลับไปเพิ่มปัญหาให้ชาวสวนยาง
ด้านนายอำนวย ปะติเส รมช.เกษตรฯ กล่าวว่า รัฐบาลมีความเป็นห่วงและรับทราบถึงปัญหาของชาวสวนยาง ซึ่งได้มีมาตรการช่วยเหลือไปแล้วบางส่วน และช่วงบ่ายวันนี้จะมีการหารือกับชาวสวนยางอีกครั้งที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ด้วย