ขณะเดียวกันในส่วนของพลังงานทดแทน ได้สั่งการให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) รวบรวมใบอนุญาตซื้อขายไฟฟ้าทั้งหมด เพื่อพิจารณาว่าโครงการใดไม่สามารถดำเนินการได้ตามสัญญาก็จะยกเลิกโครงการต่อไป นอกจากนี้ยังเตรียมกำหนดกรอบระยะเวลาใบอนุญาต อาทิ พลังงานลม ซึ่งปัจจุบันไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลาดำเนินการไว้
ส่วนแผนพัฒนาไฟฟ้า(พีดีพี) 2015 (ปี 2558-2579) จะเสนอเป็นช่วงคือ 10 ปี และ 11 ปี เพื่อสะดวกต่อการปฏิบัติ ซึ่งภายในแผนจะต้องมีการกำหนดสัดส่วนเชื้อเพลิงที่เหมาะสม เนื่องจากปัจจุบันพึ่งพาก๊าซในการผลิตไฟฟ้าเกือบ 70% นอกจากนี้จะพิจารณาการผลิตไฟฟ้าในแต่ละพื้นที่ อาทิ ภาคใต้ที่ต้องเน้นพิเศษเพราะยังขาดแคลนพลังงาน
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) วันนี้ได้เห็นชอบกรอบแนวการจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2558–2579 (PDP 2015) และกรอบแนวทางการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิง
ในส่วนกรอบแนวทางการจัดทำแผน PDP 2015 (ปี 2558–2579) เพื่อให้การวางแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศสอดคล้องกับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยหลักการในการจัดทำแผน PDP 2015 จะคำนึงถึง 1) ความมั่นคงของระบบไฟฟ้า 2) ข้อจำกัดของระบบส่งไฟฟ้า เพื่อรองรับการรับซื้อไฟฟ้าให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงาน 3) การกระจายเชื้อเพลิงให้มีความเหมาะสม ลดสัดส่วนการพึ่งพิงเชื้อเพลิงชนิดใดชนิดหนึ่ง และคำนึงถึงต้นทุนการผลิตไฟฟ้า 4) กำหนดกำลังผลิตไฟฟ้าสำรอง (Reserve Margin) ร้อยละ 15 ของปริมาณการผลิตที่พึ่งได้ 5) ส่งเสริมให้ภาคประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมีส่วนร่วมต่อการจัดทำแผน PDP 2015 และ 6) กำหนดเป้าหมายลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ประมาณร้อยละ 20 จากปัจจุบัน
สำหรับกรอบและแนวทางการจัดทำแผน PDP 2015 ประกอบด้วย 1) เน้นการประหยัดพลังงาน และส่งเสริมพลังงานหมุนเวียนที่มีประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม ชุมชน และภาคเกษตรกรรม 2) จัดทำค่าพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าในอนาคตให้สอดคล้องกับการคาดการณ์การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และนโยบายของรัฐที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจเชิงโครงสร้างอันจะส่งผลต่อการใช้พลังงาน 3) สอดคล้องกับแผนอนุรักษ์พลังงาน 20 ปี ซึ่งมีเป้าหมายการลดใช้พลังงานไฟฟ้าลง ร้อยละ 20 และลดการใช้เชื้อเพลิงลง ร้อยละ 80 และ
4) ปรับให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก โดยมีเป้าหมายกำหนดสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนในการผลิตไฟฟ้า ร้อยละ 20 5) มีการวางแผนระบบส่งและระบบจำหน่ายเพื่อรองรับการส่งเสริมพลังงานทดแทน และ6) ให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบ Smart grid เพื่อรองรับการพัฒนาระบบไฟฟ้าขนาดเล็กแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Generation: DG)
ส่วนกรอบและแนวทางการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิง โดยปรับราคาให้สะท้อนต้นทุนจัดหา ให้มีอัตราภาษีสะท้อนการปล่อยมลภาวะ ทยอยลดการชดเชยข้ามประเภท (Cross Subsidy) และให้ทุกกลุ่มผู้ใช้ก๊าซ LPG ควรจะใช้ราคาตามต้นทุนจัดหาเฉลี่ย โดยให้มีการช่วยเหลือเฉพาะกลุ่ม สำหรับแนวทางการปรับโครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ประกอบด้วย 1) การปรับปรุงอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงให้ใกล้เคียงกัน โดยคำนึงถึงการปล่อยมลภาวะ 2) ทยอยลดการชดเชยข้ามประเภทเชื้อเพลิง (Cross Subsidy) และ 3) การกำหนดค่าการตลาด ให้สะท้อนกลไกตลาด