นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ที่ระดับ 32.83/84 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 32.77/78 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับค่าเงินในภูมิภาคหลังดอลลาร์กลับมาแข็งค่า ประกอบกับดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวลดลงมาก โดยระหว่างวันเงินบาทไปทำไฮที่ระดับ 32.87 บาท/ดอลลาร์
"หลังเปิดตลาดก็ทยอยปรับตัวอ่อนค่าขึ้นมา เนื่องจากดอลลาร์กลับมาแข็งค่า แต่หากเทียบกับค่าเงินในภูมิภาคแล้วเรายังอ่อนค่าน้อยกว่า ประกอบกับการปรับตัวลดลงของดัชนีหุ้น" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันพรุ่งนี้ไว้ระหว่าง 32.75-32.85 บาท/ดอลลาร์เช่นเดิม
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 118.65 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 118.07 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2427 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.2475 ดอลลาร์/ยูโร
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 3,317.96 ล้านบาท(SET+MAI)
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,526.81 จุด ลดลง 32.75 จุด, -2.10% มูลค่าการซื้อขาย 81,734.52 ล้านบาท แต่ในช่วงบ่ายรูดลงมากอย่างผิดปกติกว่า 50 จุด คาดว่าเป็นเพราะกังวลกระแสข่าวลือที่ถูกปล่อยออกมาในตลาด เนื่องจากเป็นการขายในลักษณะ Panic Sell โดยเฉพาะในหุ้นบิ๊กแคป แม้ว่าจะมีหุ้นในกลุ่มน้ำมันถูกขายนำตลาดฯออกมาอันเป็นผลจากราคาน้ำมันร่วงแรง แต่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียต่างก็ไม่ได้ปรับตัวลงแรงเท่ากับตลาดบ้านเรา
- นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง กล่าวถึงดัชนี้หุ้นไทยที่ปรับลงแรงวันนี้ว่า ไม่อยากให้ตกใจหรือเป็นห่วงเพราะเป็นไปตามภาะวะตลาดต่างประเทศที่มีปัจจัยลบเข้ามา เมื่อมีปัจจัยลบและไม่มีปัจจัยบวกเข้ามาเสริมดัชนีก็ปรับลดเป็นธรรมดา
- นายกฤษฎา อุทยานิน ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เผยสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2557 มีจำนวน 5,640,578.26 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 46.50 ของ GDP
- นายปกรณ์ พรรธนแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารกสิกรไทย(KBANK) คาดการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยในปี 58 จะอยู่ในระดับ 4% โดยได้รับแรงขับเคลื่อนจากการลงทุนจากภาครัฐด้านโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค ขณะที่การส่งออกยังคงชะลอตัว ส่วนปีนี้คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ในระดับ 1.6% จากการบริโภคที่ยังฟื้นตัวช้า
- นายดมิทรี เมดเวเดฟ นายกรัฐมนตรีรัสเซีย เปิดเผยว่า อาจจะต้องทบทวนงบประมาณของรัฐบาลในปี 2558 อีกครั้ง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจทั้งใน และต่างประเทศไม่สู้ดีนัก
- กระทรวงการคลังของจีน เผยรายได้ด้านการคลังของรัฐบาลจีนปรับตัวเพิ่มขึ้น 9.1% ในเดือน พ.ย.แตะระดับ 9.953 แสนล้านหยวน(1.626 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือน ต.ค.ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 9.4% ขณะที่ช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ รายได้ด้านการคลังปรับตัวขึ้น 8.3% แตะที่ 12.96 ล้านล้านหยวน สำหรับปัจจัยที่ทำให้รายได้ของรัฐบาลกลางปรับตัวสูงขึ้นมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ที่จัดเก็บจากสถาบันการเงิน
- นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) ระบุสหภาพยุโรป(อียู) จำเป็นต้องดำเนินทุกวิถีทางเพื่อแก้ไขปัญหาว่างงานที่ยืดเยื้อ ซึ่งนอกจากจะสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจแล้ว ยังบั่นทอนโครงสร้างทางสังคมและสถาบันด้วยปัญหาความไม่เสมอภาคและบางครั้งก็ก่อตัวเป็นความรุนแรง
- ธนาคารกลางฟิลิปปินส์มีมติคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากข้ามคืนไว้ที่ 4% ในการประชุมวันนี้เนื่องมาจากการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและเงินเฟ้อที่อ่อนตัวลง รวมทั้งคงอัตราดอกเบี้ยบัญชีเงินฝากพิเศษและสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์
- ธนาคารกลางเกาหลีใต้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 2% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ในการประชุมวันนี้
- สำนักงานสถิติแห่งชาติของฝรั่งเศส(Insee) เผยดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) ของฝรั่งเศสเดือน พ.ย.ปรับตัวลง 0.2% จากเดือนก่อนหน้า และเพิ่มขึ้นเพียง 0.3% เมื่อเปรียบเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นสัญญาณที่สะท้อนว่า อัตราเงินเฟ้อของของยูโรโซนอาจปรับตัวลง
- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวลง 70 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 11,320 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ หรือราคาเทียบเท่ากับ 1,226.09 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 7.58 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง