ทั้งนี้ นายมนูญ เสนอปรับอัตราการจัดเก็บภาษีเบนซิน 95 จาก 5.60 บาท เป็น 5 บาท แก๊สโซฮอล์ 95 จาก 5.40 บาท เป็น 4 บาท แก๊สโซฮอล 91 จาก 5.40 บาท เป็น 4 บาท E20 จาก 4.48 บาท เป็น 4 บาท E85 จาก 0.84 บาท เป็น 1 บาท และปรับขึ้นภาษีดีเซล จาก 0.75 บาท เป็น 3 บาท LPG จาก 2.17 บาท/กก. เป็น 1 บาท/กก. และ NGV จากปัจจุบันไม่ต้องเสียภาษี เพิ่มเป็น 1 บาท/กก.
นายมนูญ กล่าวว่า ในส่วนของการเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ เบนซิน 95 จากปัจจุบันอยู่ที่เก็บในอัตรา 10.15 บาทต่อลิตร ลดลงเหลือ 8.80 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล 95 จาก 4.65 บาทต่อลิตร เป็น 3.45 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล 91 จาก 2.95 บาทต่อลิตร เป็น 1.75 บาทต่อลิตร E20 จาก 1.20 บาทต่อลิตร เป็น 0 บาทต่อลิตร E85 จากปัจจุบันชดเชย 8.23 บาทต่อลิตร ลดลงเหลือ 8 บาทต่อลิตร ดีเซล จากเก็บที่ 4.80 บาทต่อลิตร เป็น 2.55 บาทต่อลิตร ส่วน LPG และ NGV ควรจะสะท้อนต้นทุนที่แท้จริง
"ข้อเสนอแนะดังกล่าวจะยังคงกองทุนน้ำมันฯ ไว้ แต่จะเก็บในระดับที่เหมาะสม เนื่องจากเห็นว่ากองทุนมีเงินแล้วระดับหนึ่ง ประกอบกับช่วงนี้ราคาน้ำมันดิบลดลงอย่างมาก จึงควรเร่งปรับโครงสร้างราคาพลังงานโดยเร็ว"นยายมนูญ กล่าว
ด้านนายศิริ จิระพงษ์พันธ์ ผู้อำนวยการสถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย เสนอให้ยกเลิกการจัดเก็บเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ในส่วนของน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล หรือจัดเก็บให้น้อยที่สุดเพื่อสามารถอุดหนุนราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล E 20 และ E85 ทำให้ราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินต่ำกว่า 30 บาทต่อลิตร หรือเบนซิน 95 มีโอกาสลดลง 10 บาทต่อลิตร และเสนอให้มีการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล จากเดิมจัดเก็บที่ 0.75 บาทต่อลิตร เป็น 4.75 บาทต่อลิตร