น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้เปิดประมูลข้าวสารสต๊อกรัฐบาลปริมาณ 400,100 ตัน จากทั้งหมด 84 คลัง แบ่งเป็นปลายข้าวเอวันเลิศ 330,000 ตัน ข้าวขาว 15% ปริมาณ 12,000 ตัน และข้าวเหนียว 10% ปริมาณ 52,000 ตัน ที่เหลืออีกราว 6,100 ตันเป็นข้าวขาว 25% จากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปี 54/55 นาปรังปี 55 ข้าวเปลือกปี 55/56 และปี 56/57
สำหรับหลักเกณฑ์ในการพิจารณาจะมีการกำหนดราคาขั้นต่ำ(ฟลอร์ไพรซ์) โดยผู้ที่เสนอราคาผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำจะได้รับการพิจารณาและอนุมัติขายให้กับผู้เสนอราคาสูงสุด แต่หากคลังใดไม่มีผู้เสนอราคาผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ จะอนุญาตให้ผู้ที่เสนอราคาสูงสุดสามารถยื่นราคาใหม่ได้อีก หรือหากคลังใด/กองใด มีผู้เสนอราคาสูงสุดเท่ากันหลายราย จะให้เสนอราคาแข่งกันจนกว่าจะมีผู้เสนอราคาสูงสุดจึงจะถือว่าชนะ
"เงื่อนไขหลักการเดียวกับที่เคยประมูลมา 3 ครั้ง แต่ครั้งนี้เน้นประมูลปลายข้าวเอวัน เพราะตลาดมีความต้องการ และเป็นสินค้าที่ผ่านมาตรฐานแล้ว ส่วนการพิจารณาผลต้องเสนอผลสรุปต่อที่ประชุมคณะอนุกรรมการระบายข้าว คาดว่าจะทราบหลังจากเทศกาลปีใหม่" รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ระบุ
สำหรับการประมูลข้าวทั้ง 3 รอบที่ผ่านมา สามารถขายข้าวได้ 348,000 ตัน มูลค่ารวมทั้งสิ้น 3,600 ล้านบาท โดยมีบางคลังมีปัญหาเรื่องคุณภาพข้าวไม่สามารถรับมอบได้ประมาณ 2-3 ราย ซึ่งหากผู้ประกอบการพบปัญหาดังกล่าวก็สามารถส่งเรื่องร้องเรียนมายังกรมการค้าต่างประเทศ จะมีคณะทำงานระดับจังหวัด ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ไขปัญหาให้ ไม่ต้องยกเลิกสัญญาหรือเปลี่ยนคลัง