สำหรับผลการจัดเก็บรายได้ในเดือน พ.ย.57 อยู่ที่ราว 1.2 แสนล้านบาท ต่ำกว่าเป้า 4 พันล้านบาท โดยเฉพาะรายได้จากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT) จากการนำเข้าที่ลดลง 4 พันล้านบาท หรือหายไปราว 3% ขณะที่ภาษี VAT จากการบริโภคในประเทศยังขยายตัวได้ 4-5% ดังนั้นภาพรวมของภาษี VAT จะยังเติบโตได้ 1-2% แต่หากรวมการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากรในช่วง 2 เดือนแรกของปีงบ 58(ต.ค.-พ.ย.57) ยังถือว่าต่ำกว่าประมาณการ 1.9 พันล้านบาท โดยเป็นผลจากการจัดเก็บภาษีนิติบุคคลได้ต่ำกว่าเป้าหมาย
โดยหลังจากนี้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ของกรมสรรพากรเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในการจัดเก็บภาษีให้มากขึ้น แต่ขณะเดียวกันยังต้องยึดหลักความเป็นธรรม และไม่เก็บภาษีในสิ่งที่ไม่ควรจัดเก็บ
"ตอนนี้กรมฯ เป็นห่วงราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงมาก โดยต้นปีประเมินไว้ที่ 104 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ปัจจุบันเหลือประมาณ 60 ดอลลาร์/บาร์เรล และยังมีโอกาสลดต่ำกว่านี้ อาจจะมีผลต่อภาษี VAT ที่เก็บจากการนำเข้าน้ำมัน โดยเฉลี่ยแล้ว VAT ที่เก็บจากการนำเข้าน้ำมันอยู่ที่ 10-20% ของภาษีนำเข้าที่กรมเก็บได้ทั้งหมด ดังนั้นเมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ จึงต้องจับตาเป็นพิเศษ" อธิบดีกรมสรรพากร ระบุ
นายประสงค์ ยังกล่าวด้วยว่า ขณะที่กรมสรรพากรอยู่ระหว่างการแก้ไขประมวลกฎหมายรัษฎากรของกรมสรรพากร ในกรณีการยกเว้นการจัดเก็บภาษี "โรงเรียนราษฎร์" โดยจะเปลี่ยนถ้อยคำเป็นการยกเว้นการจัดเก็บภาษี "โรงเรียนเอกชน" นอกจากนี้จะมีการแนบท้ายในประมวลกฎหมายด้วยว่า จะให้มีการเก็บภาษีโรงเรียนกวดวิชาที่มีการติวเพื่อสอบเข้าสถานศึกษาต่างๆ โดยคาดว่าการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวจะแล้วเสร็จในต้นปี 58