อนึ่ง ธปท.ได้ประมาณการเศรษฐกิจไทยไว้ในรายงานแนวโน้มเงินเฟ้อล่าสุดในเดือน ก.ย.57 ว่า GDP ปีนี้จะขยายตัวได้ 1.5% ขณะที่ปี 58 คาดว่าจะขยายตัวได้ 4.8%
ส่วนผลจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลงนั้น จะกระทบต่อเงินเฟ้อในประเทศให้ปรับลดลงอย่างชัดเจนขึ้น เพราะราคาน้ำมันในประเทศปรับตัวลดลง และมีโอกาสที่เงินเฟ้ออาจจะติดลบได้ในบางช่วง แต่โดยภาพรวมทั้งปียังประมาณการไว้เท่าเดิมที่ 2.1% นอกจากนี้คงต้องดูผลกระทบต่อต้นทุนสินค้าอื่นๆ ด้วยว่าจะมีการปรับลดลงหรือไม่อย่างไร ขณะเดียวกันคงต้องดูทิศทางราคาน้ำมันในระยะต่อไปด้วย และเชื่อว่าประเทศไทยยังไม่ความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเงินฝืดในช่วง 2 ปีนี้ เพราะเศรษฐกิจโลกในปีหน้าเชื่อว่าจะดีกว่าปีนี้แน่นอน แต่อาจจะมีความเสี่ยงเรื่องการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในยุโรป และญี่ปุ่นที่ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
นายเมธี กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมกนง.ยังได้มีการหารือถึงกรณีที่รัสเซียปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 10.5% มาสู่ระดับ 17% เพื่อจะสกัดภาวะเงินรูเบิลอ่อนค่าว่าจะมีผลกระทบต่อภูมิภาคใดบ้าง แต่ในส่วนของไทยเองเชื่อว่าจะได้รับผลกระทบไม่มากนัก เนื่องจากไทย-รัสเซียมีมูลค่าการค้าระหว่างกันไม่สูงนัก แต่อาจได้รับผลกระทบในด้านการท่องเที่ยวบ้าง ส่วนประเทศที่ได้รับผลกระทบมากจริงๆ น่าจะเป็นประเทศเจ้าหนี้ของรัสเซียมากกว่า รวมทั้งประเทศจีนที่มีการทำการค้ากับรัสเซียในแต่ละปีค่อนข้างมาก
ส่วนกรณีดัชนีหุ้นตลาดหุ้นไทยที่ดิ่งลงไปกว่า 130 จุดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 15 ธ.ค.นั้น ที่ประชุม กนง.ไม่ได้มีการหยิบยกขึ้นหารืออย่างเป็นทางการ เพียงแต่เห็นว่ามีเครื่องชี้ว่ามีการเข้ามาเก็งกำไรในตลาดหุ้นไทย