ทั้งนี้ คนร.รับทราบแนวทางการแก้ปัญหา บมจ.ทีโอที และบมจ. กสท โทรคมนาคม ซึ่งมีมติเห็นชอบกรอบการดำเนินงานโครงการโทรคมนาคมของประเทศของ บมจ. ทีโอที และ กสท โทรคมนาคม โดยให้คงบทบาทการดำเนินงานด้านโครงสร้างพื้นฐานอินเตอร์เน็ตเกตเวย์ เคเบิ้ลใต้น้ำระหว่างประเทศ และการบริการ ฟิก ไลน์ (FIXED LINE)และอินเตอร์เน็ตบรอดแบนด์ และให้ลดบทบาทการดำเนินงาน IDC และ Cloud หรือกิจกรรมไอซีทีโซลูชั่นที่เห็นนว่าภาครัฐไม่ควรเข้าไปแข่งขัน โดยให้เอกชนมาดำเนินการแทน
สำหรับกลุ่มงานเสาโทรคมนาคมและโทรศัพท์เคลื่อนที่จะมีการศึกษาความเป็นไปได้ว่า ทีโอที และ กสท จะดำเนินการต่อหรือไม่ โดยจะให้บริษัทที่ปรึกษาที่มีการว่าจ้างทำการข้อสรุปภายใน 1 เดือนนี้ ก่อนส่งมาที่ คนร.อีกครั้ง สำหรับแผนการแก้ปัญหาของทั้ง 2 บริษัท คนร.ขอให้ไปจัดทำแผนลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน โดยให้เพิ่มเติมจาก ร้อยละ 5 เป็นร้อยละ 10
ทั้งนี้ที่ประชุม คนร. จะเห็นชอบให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ดำเนินโครงการพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grid) ในพื้นที่เมืองพัทยา ซึ่งเป็นโครงการลงทุนนำร่องก่อนปรับใช้กับพื้นที่อื่นวงเงินลงทุน 1.6 พันล้านบาท โดยใช้แหล่งเงินกู้ในประเทศวงเงิน 800 ล้านบาท และเงินรายได้ของกฟภ. วงเงิน 269 ล้านบาท โดยให้กฟภ.ทยอยกู้ตามความจำเป็น
นอกจากนี้ คนร.เห็นชอบในหลักการแก้ไขแบบรายละเอียดของโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง (ช่วงบางซื่อ-รังสิต) ของรฟท. ที่สถานีบางซื่อ ให้มีการปรับเพิ่มวงเงินค่าก่อสร้างให้เหมาะสมจากเดิม 72,000 ล้านบาทเพิ่มมาอีก 8,640 ล้านบาทเพื่อให้แก้ไขแบบรายละเอียด ซึ่งจากเดิมระบบราง 1 เมตร ให้มีการปรับให้เป็นระบบรางมาตรฐาน 1.43 เมตร เพื่อต้องการให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ เพื่อต้องการให้สถานีบางซื่อเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งทางรถไฟแห่งใหม่ของกรุงเทพมหานครและสามารถรองรับรถไฟความเร็วสูงที่จะวิ่งเข้าสถานีบางซื่อ