โดยวันนี้มีบริษัทผู้ให้บริการปรับจูนมิเตอร์ 4 บริษัท จำนวน 8 รุ่น ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าลาดกระบังแล้ว คือ บริษัทเอสเฟรม เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด มิเตอร์ยี่ห้อ SFAME, บริษัท ซันไทมิเตอร์ จำกัด มิเตอร์ยี่ห้อ 3TM, บริษัท เหลี่ยนยี่อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด มิเตอร์ยี่ห้อ ROYAL และบริษัท เพาเวอร์เมติค จำกัด มิเตอร์ยี่ห้อ PRINTAX จากทั้งหมด 9 บริษัท โดยอีก 5 บริษัท จำนวน 10 รุ่น ที่เหลือยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบมาตรฐานมิเตอร์ และจะทยอยประกาศรับรองต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ตั้งแต่เช้าถึงเที่ยงมีรถแท็กซี่ที่ผ่านการซีลตะกั่วไปแล้วประมาณ 400 คัน และคาดว่าทั้งวันจะมีรถแท๊กซี่ที่ได้รับการปรับจูนมิเตอร์และใช้อัตราค่าโดยสารใหม่ได้ประมาณ 1,000 คัน ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 5,000 คัน เนื่องจากมีจำนวนรถที่เข้ามาปรับจูนมิเตอร์จำนวนมาก โดยคาดว่าภายในเดือนม.ค.58 จะดำเนินการปรับจูนมิเตอร์แท็กซี่ได้หมด
ส่วนผลการตรวจสภาพรถถึงวันที่ 21 ธ.ค.57 มีรถแท็กซี่ผ่านมาตรฐานคุณภาพแล้วประมาณกว่า 60,000 คัน หรือประมาณ 80-85% ของปริมาณรถแท็กซี่ที่วิ่งให้บริการในปัจจุบันประมาณ 85,000 คัน ส่วนรถแท็กซี่ที่ยังไม่ผ่านการตรวจมาตรฐานคุณภาพนั้น กรมขนส่งฯจะเร่งดำเนินการทั้งที่สำนักงานใหญ่ และสำนักงานเขตพื้นที่
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้โดยสารสามารถตรวจสอบได้ว่าแท็กซี่ที่จะปรับค่ามิเตอร์อัตราใหม่ได้ จะต้องเป็นรถแท็กซี่ที่ผ่านการตรวจสภาพมาตรฐานและปรับจูนเตอร์ จะต้องมีสติ๊กเกอร์สีเขียวที่ระบุว่า "ผ่านมาตรฐานยกระดับและปรับจูนมิเตอร์แล้ว" ติดหน้ากระจกซ้ายด้านบน ส่วนการปรับค่าโดยสารระยะ 2 นั้นจะต้องมีการหารือกันอีกครั้ง ซี่งเงื่อนไขในการพิจารณา คือ การร้องเรียนเรื่องปฎิเสธรับผู้โดยสารต้องลดลง ในขณะที่กรมขนส่งฯ จะกำกับดูแลบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ในขณะที่การปรับค่าโดยสารครั้งนี้เป็นไปตามกลไกต้นทุนและค่าเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นซึ่งจะทำให้ผู้ขับแท็กซี่มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น