"อย่างตลาดรัสเซีย แม้จะมีข้อจำกัดที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันลดลง ทำให้กำลังซื้อลดลง แต่ก็มีโอกาส เพราะตอนนี้รัสเซียมีปัญหากับสหรัฐฯ และยุโรป ที่แซงก์ชั่นรัสเซีย จึงเป็นโอกาสของไทยในการส่งออก โดยเฉพาะกลุ่มอาหารและปศุสัตว์ ซึ่งกรมฯ ได้เชิญให้รัสเซียมาเลือกซื้อสินค้าไทยแล้ว คาดว่าจะมีโอกาสส่งออกมากขึ้น โดยผู้ส่งออกต้องติดตามค่าเงินรัสเซียที่อ่อนค่าลงไปมาก แม้รัสเซียจะนำเข้าเท่าเดิม แต่จะรู้สึกว่าของแพงขึ้น ซึ่งผู้ส่งออกไทยต้องวางแผนรับมือให้ดี" นางนันทวัลย์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม แม้ราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลงจะมีผลกระทบต่อกำลังซื้อของประเทศที่ส่งออกน้ำมันเป็นหลัก และอาจทำให้การส่งออกของไทยไปประเทศผู้ส่งออกน้ำมันได้รับผลกระทบ แต่การที่ราคาน้ำมันลดลงก็ส่งผลดีทำให้เศรษฐกิจโดยรวมของโลกปรับตัวดีขึ้น ซึ่งการส่งออกของไทยก็จะได้รับผลดีตามไปด้วย แต่กรมฯ จะนัดหารือกับภาคเอกชน ทั้งสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) อีกครั้งในต้นปี 58 เพื่อประเมินแนวโน้มการส่งออกว่าจะมีทิศทางใด เพราะปีหน้า มีปัจจัยเสี่ยงมาก ทั้งราคาน้ำมัน ราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลกที่ตกต่ำ โดยเฉพาะยางพารา รวมถึงเศรษฐกิจของคู่ค้าหลายๆ ประเทศยังไม่ฟื้นตัวดี เช่น ยุโรปและญี่ปุ่น
"ช่วงเดือนพฤศจิกายน 57 เรากำหนดเป้าหมายการส่งออกปี 58 ยังไม่ได้นำผลกระทบของราคาน้ำมันที่ลดลงมาคิดรวมด้วย ตอนนั้นน้ำมันโลกอยู่ที่ประมาณ 90 เหรียญฯต่อบาร์เรล จึงได้กำหนดเป้าหมายมูลค่าการส่งออกปี 58 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 4% จากปีนี้ แต่ขณะนี้ราคาน้ำมันโลกลดลงมากก็อาจจะทำให้การส่งออกของไทยไปประเทศผู้ส่งออกน้ำมันลดลงด้วย แต่จะทำให้เป้าหมายการส่งออกของไทยลดลงเท่าไร ขณะนี้ยังประเมินไม่ได้ ต้องหารือกับภาคเอกชนอีกครั้งก่อน" นางนันทวัลย์ กล่าว