นาย
สุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (
ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ภาคอุตสาหกรรมเป็นหนึ่งในแกนหลักสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศและเป็นภาคที่ต้องใช้พลังงานสำหรับการผลิตเพื่อเพิ่มมูลค่า ดังนั้นความมั่นคงด้านพลังงานและราคาของพลังงานที่สามารถแข่งขันได้จึงเป็นความจำเป็นของภาคอุตสาหกรรม
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยจึงขอเสนอจุดยืนด้านพลังงานใน 3 คือสำคัญ คือ 1. สนับสนุนให้มีการเพิ่มสัดส่วนของการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินสะอาด(clean coal technology) เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมเป็นภาคที่ใช้ไฟฟ้าเป็นหลักในการผลิตและดำเนินการภาคอุตสาหกรรมใช้ไฟฟ้าถึง 44% ของไฟฟ้าทั้งหมดการผลิตไฟฟ้าในประเทศในปัจจุบันใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตมากถึง 67% ของเชื้อเพลิงทั้งหมดที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าในประเทศ เนื่องจากก๊าซธรรมชาติในประเทศมีไม่เพียงพอ ปัจจุบันเราต้องนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากต่างประเทศเพื่อนำผลิตไฟฟ้า โดยมีแนวโน้มการนำเข้าเพิ่มขึ้นทุกปี ทำให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าสูงขึ้นและส่งผลให้ราคาค่าไฟฟ้าสูงขึ้น มีผลกระทบโดยรวมกับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
2. สนับสนุนให้มีการผลิตพลังงานทดแทนใช้ในภาคอุตสาหกรรมอย่างเหมาะสม โดยเน้นพลังงานทดแทนที่มีศักยภาพทั้งปริมาณที่มีในประเทศและต้นทุน เช่น Biomass, Biogas, Ethanol และ Biodiesel รวมทั้งนำขยะมาผลิตพลังงาน(waste to energy) เป็นต้น และจะต้องมีการวิจัยและพัฒนา(R&D) ต่อเนื่อง
3. ผลักดันและจูงใจ ให้มีการใช้พลังงานในภาคอุตสาหกรรมอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ส่งเสริมให้ความรู้กับผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมให้มีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดผ่านการใช้ เทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้สถาบันพลังงานเพื่ออุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมมีความพร้อมที่จะดำเนินการเรื่องนี้อย่างเต็มที่ ร่วมกับภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
อินโฟเควสท์ โดย สุวิมล ภูมิคำ/นิศารัตน์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--